วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ซอลลี่ สาวเกาหลีหน้าแบ๊ว กับพัฒนาการความแรงที่เปลี่ยนไปมาก

กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ "ซอลลี่" สาวเกาหลีสายแบ๊ววัย 23 ปี อดีตสมาชิกวง fX (เอฟเอกซ์) มีภาพหลุดในภาพยนต์เรื่อง Real กับฉากวาบหวิวจนถึงขั้นเปลือยร่าง เห็นหน้าอก เล่นบทสยิวพระเอกสุดฮอต "คิมซูฮยอน"

หลังจากหนังเรื่อง Real ได้เข้าฉายเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ภาพฉากสุดสยิวก็หลุดออกมา และถูกแชร์ต่อในทันที 

ซึ่งที่ผ่านมา "ซอลลี่" เข้าวงการตั้งแต่เด็ก เริ่มจากการเป็นนักแสดง เป็นเด็กฝึกรุ่นแรกๆ ของ SMEnt. เรียกได้ว่ายุคบุกเบิกของวงการ แฟนๆ เลยชอบเรียกเธอว่าเจ้าหญิงน้อยแห่ง SM หลังจากนั้นก็มีผลงานมาตลอด ทั้งเป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร นางแบบ 

เรียกว่าเป็นไอดอลสาวสายแบ๊วที่ดังมากๆ แต่พอภาพจากหนังเรื่อง Real หลุดออกมา ทำให้รู้ได้เลยว่าเธอมีพัฒนาการที่โต เซ็กซี่ขึ้นสุดๆ 

"ซอลลี่" ในอดีตจะน่ารักขนาดไหน และในปัจุบันจะโตมากขึ้นเพียงใด ตาม Sanook! Women มาความเปลี่ยนแปลงกันค่ะ

อ่านต่อได้ที่ http://women.sanook.com/63285/

 

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

ผู้หญิงทุก สิ่งมีชีวิตไม่ว่าใครก็ล้วนอยากมีผิวขาว ถึงกระนั้นหากคุณเกิดมาพร้อมกับผิวสองสี ผิวแทนหรือผิวสีน้ำผึ้งตลอดจนกระทั่งผิวหมองคล้ำอันเนื่องมาจากการตากแดดเป็นเวลา เนิ่นนาน ความหมองคล้ำจากแดดก็ย่อมบดบังความกระจ่างใสสรรพสิ่งผิวจนเหลือแต่เพียงความหมอง คล้ำดำกร้านได้เช่นเดียวกัน วันนี้เรามีสูตรความงามที่จะช่วยเปลี่ยนสีผิวของคุณสละกลับมาขาวกระจ่างใสแบบธรรมชาติได้ค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว.. เรามาดูกันเลยว่ามีสูตรไหนทำอย่างไรค่อย

สูตรขัดผิวขาว

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวด้วยมะขามเปียก มะนาว ขมิ้น โยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
ด้วย ส่วนผสมเคลื่อนมะขามเปียกและมะนาวทำเนียบนำมาผสมผสานกัน ยิ่งเป็นการเพิ่มสองคุณค่าจากกรดผลไม้ย่านจะช่วยเร่งความกระจ่างใสให้สีผิว เพราะสองผลไม้ดังกล่าวมีฤทธิ์หมายถึงกรดมันจักช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่อยู่ตายแล้ว ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ในขณะที่โยเกิร์ต น้ำผึ้งจะช่วยคืนความเนียนนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวและขมิ้นก็จะช่วยจัดการ แบคทีเรียบนผิวหนังส่งให้หมดไป อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเคลือบผิวทำให้สีผิวผุดผ่องเป็นยองใยมากขึ้น อย่างกับนั้น สูตรนี้จึ่งมั่นใจได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนผิวหมองคล้ำของคุณให้ค่อยๆ ขาวกระจ่างใสติดตามธรรมชาติได้ชนิดแน่นอน

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
 

วิธีใช้ นำ ส่วนผสมทั้งหมดมาหาผสมรวมกัน อาจจะแยกเอามะขามเปียกไว้ต่างหากก็ได้นะคะ เพราะนำมะขามเปียกมาชุบกับส่วนผสมทั้งหมดแล้วขัดผิวแทนใยบวบนั่นเอง ขัดผิวให้ทั่วเรือนร่างเพราะว่าขัดวนหมายถึงวงกลมไปมา จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ 15-20 นาทีค่ะ แล้วล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ที่สำคัญหลังจากขัดผิวเสร็จแล้วอย่าลืมรีบชโลมผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมจาก ไวท์เทนนิ่งทันที และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ภายในบ้านก็ตามก็ต้องทาครีมกันแดดค่ะ เพราะแสงจากหลอดไฟก็แผ่รังสีที่จะทำลายผิวให้หมองคล้ำรวดเร็วได้มา

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรดังกล่าวสาวๆ สามารถนำมาพอกหน้าได้มาเช่นเดียวกันนะคะ ถ้าว่าอาจจะเลือกครอบครองมะนาวหรือมะขามเปียกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กรดจากผลไม้มีมากเกินเสด็จพระราชดำเนินจนทำลายผิวแจกแสบระคายเคืองค่ะ และอาจจะลดขมิ้นให้น้อยลงด้วย ไม่เช่นนั้น อาจทำให้ผิวหน้าสาวๆ เหลืองอย่างที่ไม่พอที่จะเป็นได้รับ

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวจากมะขามเปียกและ วัตถุดิบอื่นๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติช่วยผลัดผิวและเผยเซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่าง

ใส เปล่งปลั่ง ทำให้ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อสาวๆ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ควบคู่กับการกินผักผลไม้ที่ให้วิตามินแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว นอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำพร้อมด้วยหลับให้สนิทตลอดคืน มีหรือคะที่ผิวหมองคล้ำจะไม่โบกมือลาหายไป

สำหรับสาวที่กอบด้วยผิวแทน ผิวสองสีเหรอผิวสีน้ำผึ้ง คุณก็จักพบกับผลลัพธ์เครื่องใช้สีผิวที่จะค่อยๆ ขาวกระจ่างใสได้เช่นเดียวกัน ไม่เชื่อ.. คงต้องลองทำตามกันแล้วค่ะ แล้วคุณจะทึ่งไปกับคุณสมบัติของสูตรภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยเราสุดๆ เลยล่ะ

ลายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://women.sanook.com/blog/22855/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจาก<b><i>สิว</i></b>ได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ปัญหาผิวหน้าของสาวๆ ส่วนใหญ่ก็คือ การมีสิวขึ้นหน้า และเมื่อสิวหายไปแล้ว หลังจากมันตกสะเก็ดมันก็มักทิ้งรอยสิวดำๆ เอาไว้ให้สาวๆ เรากลุ้มใจตามเสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรละเลยการรักษารอยสิวให้จางลงโดยเร็ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนกันบ้างหรือไม่นะที่จะสามารถรักษารอยสิวให้จางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากคุณหมายถึงอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหารอยสิว และหากกำลังมองหา วิธีลดเลือนรอยสิวในแบบธรรมชาติ ตามมาดูกับวัตถุดิบเหล่านี้ที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยารักษารอยสิวกันสิคะ รับรองค่ะว่ารอยสิวจะต้องจางลงแบบไม่ต้องควักตังค์ซื้อยารักษารอยสิวกันเลย แถมยังทำอุปถัมภ์ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสตามได้อีกเพราะ มาดูกันเลยค่ะว่ามีเช่นไรบ้าง

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

1.น้ำมะนาว

การลดเลือนรอยสิวให้จางลง เราสามารถใช้น้ำมะนาวได้ เป็นวิธีรักษาสิวสูตรธรรมชาติ เพราะน้ำมะนาวมีค่าเป็นกรดโดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้ยังมีชีวิตอยู่อย่างดี พร้อมด้วยยังทำหน้าที่ข้างในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวดำๆ จางลง อย่างไรก็ตามก่อนใช้อย่าลืมผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าให้กรดของมันเจือจางลงสักเล็กน้อยนะคะ ไม่งั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าแสบระคายเคืองเกินเจียรได้ สำหรับในส่วนของงานรักษารอยสิวด้วยน้ำมะนาว อุปการะแต้มน้ำมะนาวลงเดินบนรอยสิวปล่อยทิ้งวางประมาณ 2 ชั่วโมงจึ่งล้างออก

2.เจลว่านหางจระเข้

หน้าร้อนส่วนนี้ ผิวสาวมักเผชิญพร้อมปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดหรือผิวไหม้แดดคงอยู่ได้เป็นประจำ และเจลว่านหางจระเข้ก็มีคุณสมบัติเอาใจช่วยปลอบประโลมปัญหาเผินๆดังกล่าวได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ มันยังสามารถช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้ด้วย เพียงนำเนื้อเจลว่านหางจระเข้มาทาลงบนรอยสิวปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีจากนั้นล้างออกส่งให้สะอาด ทำงานเป็นประจำ รอยสิวจางลงแน่นอน

เจลว่านหางจรเข้ ราคา 290 บาท

รหัสสินค้า : 001147
ราคา 290.00
Availability : In Stock
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
 

 

3.มันฝรั่ง

นำมันฝรั่งมาฝานให้เป็นแผ่น ดำเนินนั้นนำมาทาลงบนบานศาลกล่าวรอยสิว ปล่อยไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก จัดทำเป็นประจำมันฝรั่งจะช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้เช่นกันค่ะ

4.น้ำมันมะกอก

ก่อนใช้น้ำมันมะกอก ควรล้างหน้าเอื้ออำนวยสะอาดก่อนด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงนำน้ำมันมะกอกมาทาบนใบหน้าพร้อมด้วยกับค่อยๆ นวดผิวหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างหน้าให้สะอาด งานใช้น้ำมันมะกอกรักษารอยสิว นอกจากจะช่วยให้รอยสิวจางลงจากนั้น ยังช่วยบำรุงผิวจ่ายชุ่มชื้นและเนียนนุ่มขึ้นอย่างยังไม่ตายธรรมชาติอีกด้วย

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

5.แตงกวากับมะเขือเทศ

ให้นำแตงกวาและมะเขือเทศมาปั่นประสมกันจนหมายความว่าเนื้อละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าวางประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกเลี้ยงดูสะอาด มะเขือเทศมีวิตามินเอพร้อมกับซี ในขณะที่แตงกวาเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 และบี 2 เมื่อนำสองคุณค่านี้มาผสานรวมกันก็จะยิ่งช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางลง และทำประทานผิวหน้ากระจ่างใสนวลเนียนอย่างคือธรรมชาติยิ่งขึ้น

6.มะละกอ

ให้นำมะละกอสุก สามารถรักษาสิวได้ โดยการนำมาปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาทาลงบนรอยสิว หรืออาจจะทาจนถึงทั่วใบหน้าก็ได้เช่นกัน ปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ คุณสมบัติจากมะละกอสุกจะช่วยกระตุ้นงานผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น พร้อมกับยังช่วยลดเลือนรอยสิวไปพร้อมๆ กันและกันอีกเหมือนกัน

ขายส่งสบู่มะละกอแครอท

รหัสสินค้า : 000468
ราคา 125.00
Availability : In Stock

ทราบกันไปแล้วนะคะถึงวิธีรักษารอยสิวในแบบธรรมชาติ อย่าลืมหยิบเอาวัตถุดิบใกล้ตัวที่คุณหาง่ายเหล่านี้มาแต้มรอยสิว ไม่นานหรอกค่ะ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ค้นพบจะต้องเกิดกับคุณภายในไม่ช้าแน่นอน

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สิวมีกี่แบบ

อดีตมิสทิฟฟานี่ "พระแจ๊ส" โพสต์ขอโทษ 3 คนที่ทำเรื่องให้ในอดีต

อดีตมิสทิฟฟานี่ "พระแจ๊ส" โพสต์ขอโทษ 3 คนที่ทำเรื่องให้ในอดีต

อดีตมิสทิฟฟานี่ "พระแจ๊ส" โพสต์ขอโทษ 3 คนที่ทำเรื่องให้ในอดีต

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

อดีตมิสทิฟฟานี่ปี 2009 และอดีตสาวประเภทสองที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิง ก่อนจะผันตัวหันหน้าเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพักตร์ สำหรับ "พระแจ๊ส พระสรวีย์ รวีณัฐฐา" หลังจากศึกษาพระธรรมและบวชตลอดชีวิต ได้ใช้ชีวิตอย่างรู้สึกในรสพระธรรม แต่ล่าสุด พระแจ๊ส ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาขออภัยกับบุคคล 3 คน ที่มีความผิดพลาดในอดีต

สามท่าน ที่ข้าพเจ้าอยากขออภัยด้วยใจจริง สำหรับเรื่องความผิดของหลวงพี่ในอดีต ทุกวันนี้มีผลต่อการทำสมาธิของหลวงพี่ ไม่สามารถเจริญไปได้มากกว่านี้ เมื่อได้รับการฝึกสมาธิ ทำให้ได้พิจารณา รู้เห็นอะไรๆตามเป็นจริง ที่ละเอียดขึ้น และเพราะว่าเรามีความผิดที่กระทำไว้กับคนสามคน ทำให้ข้อมูลมันวนกลับมา ทำให้หลวงพี่ติดข้องอยู่ ไม่สามารถพัฒนาจิตให้สูงขึ้นไปอีกได้

1. ความผิดที่ในอดีต ที่สรวีย์เคยใส่ร้าย-ตำหนิ โยมพี่อ๊อฟ ชนะพล มีผลทำให้ชีวิตของเขามีตราบาป ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริงเลย แต่เพราะความโลภ ความหลง และความโง่เขลาของสรวีย์ จำต้องขวนขวายอยากมีชื่อเสียง ในทางที่ผิด จึงยอมที่จะใส่ร้ายทำลายโยมพี่ออฟ ชนะพล นึ่เป็นความผิดที่ชั่วร้ายมาก

หลวงพี่จำต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ตลอด และอยากจะขอโทษขออภัยโยมพี่อ๊อฟด้วยใจจริง หลวงพี่อยากขอให้โยมพี่โบกัส ช่วยประชาสัมพันธ์คืนความบริสุทธิ์ให้โยมพี่อ๊อฟ ชนะพล เพราะโยมพี่เขาเป็นคนดีจริงๆ อดีตสรวีย์ไม่เคยไม่อะไรกับเขาเลย มีแต่ความเป็นพี่น้องกัน แต่เพราะความลุ่มหลง ทำให้สรวีย์ยอมทำชั่ว แม้ยอมเสียมิตรภาพความเป็นพี่น้องทึ่ดีต่อกันมาตั้งแต่เด็ก ฝากโยมพี่โบกัสช่วยด้วยนะครับ

อ่านต่อ http://news.sanook.com/2552726/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

วันสุนทรภู่

วันสุนทรภู่

 

วันสุนทรภู่ หมายถึง วันคล้ายวันเกิดของพระสุนทรโวหาร(สุนทรภู่) เจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวัง ซึ่งมีผลงานด้านบทกลอนที่มีคุณค่าแก่แผ่นดินเป็นจำนวนมาก

ความเป็นมา องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ผลงาน ด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการประกาศ ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีขึ้นไป ประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ โดยสรุป คือ

  1. เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและผลงานของผู้มีผลงานดีเด่นทาง ด้านวัฒนธรรมระดับโลกให้ปรากฎแก่มวลสมาชิกทั่วโลก
  2. เพื่อเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เฉลิมฉลองร่วมกับประเทศที่มีผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ

ในการนี้ รัฐบาลไทย โดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้สืบค้นบรรพบุรุษไทยผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม เพื่อให้ยูเนสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่องสุนทรภู่ให้ เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลกในวาระครบรอบ ๒๐๐ ปีเกิด เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๙ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการจัดตั้งสถาบันสุนทรภู่ขึ้นเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับชีวิตและงานของสุนทรภู่ให้แพร่หลายในหมู่เยาวชนและประชาชนชาวไทยมากยิ่งขึ้น จึงได้กำหนดให้วันที่ ๒๖ มิถุนายน ของทุกปี เป็น วันสุนทรภู่

ชีวประวัติสุนทรภู่

ประวัติสุนทรภู่วัยเด็ก (พ.ศ.๒๓๒๙ - ๒๓๔๙) แรกเกิด - อายุ ๒๐ ปี

พระสุนทรโวหาร (ภู่) มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขุนศรีสังหาญ (พลับ) และแม่ช้อย เกิดในรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือนแปด ขึ้นหนึ่งค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเช้า ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ที่บ้านใกล้กำแพงวังหลัง คลองบางกอกน้อย สุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าจากกัน ฝ่ายบิดากลับไปบวชที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง ส่วนมารดา คงเป็นนางนมพระธิดา ในกรมพระราชวังหลัง (กล่าวกันว่าพระองค์เจ้าจงกล หรือเจ้าครอกทองอยู่) ได้แต่งงานมีสามีใหม่ และมีบุตรกับสามีใหม่ ๒ คน เป็นหญิง ชื่อฉิมและนิ่ม ตัวสุนทรภู่เองได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่ยังเด็ก

สุนทรภู่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน สันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว เมื่อรุ่นหนุ่มเกิดรักใคร่ชอบพอกับนางข้าหลวงในวังหลัง ชื่อแม่จัน ครั้นความทราบถึงกรมพระราชวังหลัง พระองค์ก็กริ้ว รับสั่งให้นำสุนทรภู่และจันไปจองจำทันที แต่ทั้งสองถูกจองจำได้ไม่นาน เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. ๒๓๔๙ ทั้งสองก็พ้นโทษออกมา เพราะเป็นประเพณีแต่โบราณ ที่จะมีการปล่อยนักโทษเพื่ออุทิศส่วนพระราชกุศลแด่ พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์ ชั้นสูงเมื่อเสด็จสวรรคต หรือทิวงคตแล้ว แม้จะพ้นโทษ สุนทรภู่และจันก็ยังมิอาจสมหวังในรัก สุนทรภู่ถูกใช้ไปชลบุรี ดังความตอนหนึ่งในนิราศเมืองแกลงว่า

"จะกรวดน้ำคว่ำขันจนวันตาย แม้เจ้านายท่านไม่ใช้แล้วไม่มา"

แต่เจ้านายท่านใดใช้ไป และไปธุระเรื่องใดไม่ปรากฎ อย่างไรก็ดี สุนทรภู่ได้เดินทางเลยไปถึงบ้านกร่ำ เมืองแกลง จังหวัดระยอง เพื่อไปพบบิดาที่จากกันกว่า ๒๐ ปี สุนทรภู่เกิดล้มเจ็บหนักเกือบถึงชีวิต กว่าจะกลับมากรุงเทพฯ ก็ล่วงถึงเดือน ๙ ปี พ.ศ.๒๓๔๙

ประวัติสุนทรภู่วัยฉกรรจ์ (พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙) อายุ ๒๑ - ๓๐ ปี

หลังจากกลับจากเมืองแกลง สุนทรภู่ได้เป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ พระโอรสองค์เล็ก ของกรมพระราชวังหลัง ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ในช่วงนี้สุนทรภู่ก็สมหวังในรักได้แม่จันเป็นภรรยา

สุนทรภู่คงเป็นคนเจ้าชู้ แต่งงานได้ไม่นานก็เกิดระหองระแหงกับแม่จันยังไม่ทันคืนดี สุนทรภู่ก็ต้องตามเสด็จพระองค์เจ้า ปฐมวงศ์ไปนมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ในวันมาฆบูชา สุนทรภู่ได้แต่งนิราศ เรื่องที่สองขึ้น คือ นิราศพระบาท สุนทรภู่ตามเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ ในเดือน ๓ ปี พ.ศ.๒๓๕๐

สุนทรภู่มีบุตรกับแม่จัน ๑ คน ชื่อหนูพัด แต่ชีวิตครอบครัวก็ยังไม่ราบรื่นนัก ในที่สุดแม่จันก็ร้างลาไป พระองค์เจ้าจงกล (เจ้าครอก ทองอยู่) ได้รับอุปการะหนูพัดไว้ ชีวิตของท่านสุนทรภู่ช่วงนี้คงโศกเศร้ามิใช่น้อย

ประวัติชีวิตของสุนทรภู่ในช่วงปี พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙ ก่อนเข้ารับราชการไม่ชัดแจ้ง แต่เชื่อว่าท่านหนีความเศร้าออกไปเพชรบุรี ทำไร่ทำนาอยู่กับหม่อมบุญนาคในพระราชวังหลัง ดังความตอนหนึ่งในนิราศ เมืองเพชร ที่ท่านย้อนรำลึกความหลัง สมัยหนุ่ม ว่า

"ถึงต้นตาลบ้านคุณหม่อมบุญนาค เมื่อยามยากจนมาได้อาศัย มารดาเจ้าคราวพระวังหลังครรไล มาทำไร่ทำนา ท่านการุญ"

ประวัติสุนทรภู่รับราชการครั้งที่ ๑ (พ.ศ.๒๓๕๙ - ๒๓๖๗) อายุ ๓๐ - ๓๘ ปี

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นมหากวีและทรงสนพระทัยเรื่องการละครเป็นอย่างยิ่ง ในรัชสมัยของ พระองค์ ได้กวดขันการฝึกหัดวิธีรำจนได้ที่ เป็นแบบอย่างของละครรำมาตราบทุกวันนี้ พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์บทละคร ขึ้นใหม่อีกถึง ๗ เรื่อง มีเรื่องอิเหนาและเรื่องรามเกียรติ์ เป็นต้น

มูลเหตุที่สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการ น่าจะเนื่องมาจากเรื่องละครนี้เอง ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีทอดบัตรสนเท่ห์ เพราะจากกรณี บัตรสนเท่ห์นั้น คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกประหารชีวิตถึง ๑๐ คน แม้แต่ นายแหโขลน คนซื้อกระดาษดินสอ ก็ยังถูกประหารชีวิตด้วย มีหรือสุนทรภู่จะรอดชีวิตมาได้ นอกจากนี้ สุนทรภู่เป็นแต่เพียงไพร่ มีชีวิตอยู่นอกวังหลวง ช่วงอายุก่อนหน้านี้ก็วนเวียน และเวียนใจอยู่กับเรื่องความรัก ที่ไหนจะมีเวลามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง

(กรณีวิเคราะห์นี้ มิได้รับรองโดยนักประวัติศาสตร์ เป็นความเห็นของคุณปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ เขียนไว้ในหนังสือ "เที่ยวไปกับสุนทรภู่" ซึ่งเห็นว่ามูลเหตุที่สุนทรภู่ได้เข้า รับราชการ น่าจะมาจากเรื่องละครมากกว่าเรื่องอื่น ซึ่งข้าพเจ้า พิเคราะห์ดูก็เห็นน่าจะจริง ผิดถูกเช่นไรโปรดใช้วิจารณญาณ)

อีกคราวหนึ่งเมื่อทรงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ตอนศึกสิบขุนสิบรถ ทรงพระราชนิพนธ์บทชมรถทศกัณฐ์ว่า

"รถที่นั่ง บุษบกบัลลังก์ตั้งตระหง่าน 
กว้างยาวใหญ่เท่าเขาจักรวาล ยอดเยี่ยมเทียมวิมานเมืองแมน 
ดุมวงกงหันเป็นควันคว้าง เทียมสิงห์วิ่งวางข้างละแสน 
สารถีขี่ขับเข้าดงแดน พื้นแผ่นดินกระเด็นไปเป็นจุณ"

ทรงพระราชนิพนธ์มาได้เพียงนี้ ทรงนึกความที่จะต่อไปอย่างไรให้สมกับที่รถใหญ่โตปานนั้นก็นึกไม่ออก 
จึงมีรับสั่งให้สุนทรภู่แต่งต่อ สุนทรภู่แต่งต่อว่า

"นทีตีฟองนองระลอก กระฉอกกระฉ่อนชลข้นขุ่น 
เขาพระเมรุเอนเอียงอ่อนละมุน อนนต์หนุนดินดานสะท้านสะเทือน
ทวยหาญโห่ร้องก้องกัมปนาท สุธาวาสไหวหวั่นลั่นเลื่อน 
บดบังสุริยันตะวันเดือน คลาดเคลื่อนจัตุรงค์ตรงมา"

กลอนบทนี้เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยิ่งนัก นับแต่นั้นก็นับสุนทรภู่เป็นกวีที่ปรึกษาด้วยอีกคนหนึ่ง ทรงตั้งเป็นที่ขุนสุนทรโวหาร พระราชทานที่ให้ปลูกเรือนที่ท่าช้าง และให้มีตำแหน่งเฝ้าฯ เป็นนิจ 
แม้เวลาเสด็จประพาสก็โปรดฯ ให้สุนทรภู่ลงเรือพระที่นั่งไปด้วย เป็นพนักงานอ่านเขียนในเวลาทรงพระราชนิพนธ์บทกลอน

อ่านต่อ http://guru.sanook.com/4029/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

10 อาหารต้านมะเร็ง ยิ่งทานยิ่งสตรอง!

10 อาหารต้านมะเร็ง ยิ่งทานยิ่งสตรอง!

ใครๆ ก็ไม่อยากเป็นโรคมะเร็งใช่ไหมคะ แต่จะให้ซื้อยา หรืออาหารเสริมมาทานก็ไม่แน่ใจในเรื่องของประสิทธิภาพ ผลข้างเคียง หรือแม้กระทั่งราคาที่แพงลิบลิ่ว Sanook! Health จึงขอแนะนำอาหารธรรมดาๆ หาได้ตามท้องตลาด แต่ต้านมะเร็งได้อยู่หมัดมาให้เลือกทานกันตามใจชอบเลยค่ะ

มะเร็ง คืออะไร ?

มะเร็ง คือ โรคชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะมีการเจริญเติบโตรวดเร็วกว่าปกติ ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้น เซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้จึงสามารถแพร่กระจายและลุกลามไปทั่วร่างกาย มีผลทำให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ก่อให้เกิดโรคและมีอาการต่างๆ เกิดขึ้นตามมา หากว่าเกิดมะเร็งในอวัยวะสำคัญๆ หรือเซลล์มะเร็งนั้นได้แพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะสำคัญ ทำให้อวัยวะนั้นๆ ล้มเหลว ทำงานได้ไม่ปกติ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ในที่สุด อวัยวะสำคัญที่อาจเป็นเป้าหมายของเซลล์มะเร็ง ได้แก่ ตับ ปอด สมอง กระดูก ไขกระดูก และไต

มะเร็ง เกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุของการเกิดมะเร็งนั้นยังไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นและมีการแพร่กระจายได้อย่างไร แต่ในปัจจุบันแพทย์ได้มีการวิจัยและพบปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งก็มีความเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดน่าจะมาจากปลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน น้อยมากที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยเดียว โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็ง ได้แก่ ..

มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เกิดขึ้นได้จากมั้งพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดและไม่ถ่ายทอด
การสูบบุหรี่
การดื่มเหล้า
ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
ขาดการกินผักและผลไม้
กินอาหารจำพวกไขมัน หรือเนื้อแดงต่อเนื่องเป็นประจำ
การสูดดมสารพิษบางอย่างเป็นประจำ
ร่างกายได้รับโลหะหนัก จากการหายใจ อาหาร และ/หรือน้ำดื่ม เช่น สารปรอท
ติดเชื้อไวรัสบางชนิด อาทิ ไวรัสเอชไอวี (HIV) ไวรัสเอชพีวี (HPV)
ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาทิ เชื้อเอชไพโลริในกระเพาะอาหาร
ติดเชื้อพยาธิบางชนิด อาทิ พยาธิใบไม้ตับ
มีการใช้ยาฮอร์เพศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
อยู่ในวัยสุงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น เซลล์ในผู้สูงอายุก็จะมีการเสื่อมและซ่อมแซมตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุให้เซลล์กลายพันธ์ไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ง่าย
มะเร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ?

บางคนอาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าการเป็นโรคมะเร็งกับการเป็นเนื้องอกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของทั้งสองอาการให้เห็นกันชัดๆ โรคมะเร็งนั้นจะต่างจากการเป็นเนื้องอกก็ตรงที่ ก้อนเนื้อ หรือแผลที่เป็นมะเร็งนั้นจะลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงได้เร็วกว่า เข้าต่อมน้ำเหลือ แพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือด เข้าสู่กระแสเลือด ตลอดจนหลอดน้ำเหลืองต่อเนื่องไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย โดยมากมักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ฉะนั้น โรคมะเร็งจึอาจมองได้ว่าเป็นโรคที่เรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต้องทำอย่างต่อเนื่อง


เนื้องอก หรือโรคเนื้องอก อันได้แก่ การมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติ จะแตกต่างจากก้อนเนื้อของมะเร็งตรงที่ก้อนเนื้อนั้นโตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะข้างเคียง ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแสโลหิต ตลอดจนกระแสน้ำเหลือง ฉะนั้น การเป็นเนื้องอกทำการรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัด
คราวนี้เมื่อรู้ถึงที่มาที่ไปของโรคมะเร็งแล้ว เรามาดูกันซิว่าการรับประทานประเภทไหนบ้างที่จะช่วยให้เรานั้นห่างไกล หรือมีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคมะเร็งได้น้อยลง ...

1. ผัก

ผักหลายชนิดที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น

- ผักสีเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว ส้ม แดง ม่วง เช่น ผักโขม แครอท มะเขือเทศ

- กะหล่ำต่างๆ เช่น กะหล่ำปลี บล็อกโคลี กะหล่ำดอก

- หัวหอม และกระเทียม

2. ถั่ว ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ที่นอกจากจะช่วยต้านมะเร็งแล้ว ยังดีต่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนที่ดี และกากใยอาหารตามธรรมชาติ ขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วย

3. ธัญพืชต่างๆ เหมือน ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเล่ย์ ข้าวโพด ข้าวสาลี ต้านมะเร็งก็ดี วิตามินบีก็ได้ ตัดทอนความดันโลหิตก็เยี่ยม

4. สาหร่ายทะเล เป็นแหล่งแร่ธาตุชั้นดี เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายมากมาย มีให้เลือกทานหลายชนิด แต่ควรเลือกทานสลับชนิดกันไปเรื่อยๆ ไม่ควรทานสาหร่ายชนิดเดียวติดต่อกันนานเกินไป หรือใครอยากลองสาหร่ายพวงองุ่นก็ดีนะคะ เทรนด์กำลังมาริเลยล่ะ (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง ประโยชน์ของสาหร่ายพวงองุ่น ที่นี่)

5. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ตลอดสตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เชอร์รี่ ทั้งอร่อยสดชื่น และมีประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามินต่างๆ และกากใยอาหาร ทานสดจะได้คุณค่าสูงสุดค่ะ

6. ปลาน้ำเย็น ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทะเล เช่น แซลมอน ที่มีโอเมก้า 3 และไขมันที่ดีต่อร่างกาย ปลาคอท ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน

7. เครื่องเทศต่างๆ เช่น เก๋ากี้ (หรือโกจิเบอร์รี่) พริกไทย กระเทียม หัวหอม ขิง โรสแมรี่ สามารถยกมามาทำอาหาร หรือทานสดได้ (หากทานได้) ช่วยต้านมะเร็ง และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย

8. โยเกิร์ต ไม่หาได้มีผลดีแค่เรื่องการขับถ่าย และช่วยควบคุมน้ำหนักได้เท่านั้น แต่ยังช่วยต้านมะเร็ง เพราะมีสารอนุมูลอิสระ ช่วยการหมุนเวียนของโลหิต และชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย หรือว่าจะลองกรีกโยเกิร์ต ที่เข้มข้นกว่า สารอาหารมากกว่า และมีโปรไบโอติกส์ที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ดีกว่าด้วย

9. เห็ดต่างๆ ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่เห็ดหอม เห็ดฟาง เห็ดออรินจิ และอื่นๆ ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด มีเส้นใยอาหารที่ช่วยเรื่องการย่อย และการขับถ่ายให้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิตามินต่างๆ ที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย

10. น้ำดื่มธรรมดาๆ นี่ล่ะ น้ำดื่มสะอาด โปรดให้โลหิตไหลเวียนได้คล่องตัวขึ้น เป็นตัวกลางสำคัญที่จะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการนำนำพาเอาของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้นอีกด้วย

มะเร็ง รักษาหายหรือไม่ ?

อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป สำหรับใครที่เคยได้ยินมาว่า โรคมะเร็ง นั้นเป็นโรคที่ทางรักษาไม่หาย หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดยาก เพราะเท่าที่ได้มีการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวเรื่องโรคมะเร็งมา พบว่า โรคนี้เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โอกาสในการรักาาให้หายก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ ..

ระยะของโรค
ชนิดของเซลล์มะเร็ง
วิธีงานรักษา สามารถผ่าตัดได้หรือไม่ ถ้าผ่าตัดได้ จะสามารถยกมาก้อนมะเร็งออกได้ทั้งหมดหรือไม่
มะเร็งชนิดที่พบในผู้ป่วย เป็นชนิดที่ดื้อต่อรังสีรักษา และ/หรือยาเคมีบำบัด และ/หรือยาที่กินรักษาตรงเป้าหรือไม่
ช่วงอายุ
สุขภาพของผู้ป่วย
ถ้าจะมอบอธิบายกันอย่างมองภาพแล้วละก็ ผู้สถานที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งนั้นข้างในภาพรวมอัตราการรอดจะอยู่ที่ประมาณ 5 ปี ภายหลังที่ทำการรักษา โดยแบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้ ..

โรคมะเร็งระยะ 0 โอกาสหายจะอยู่ที่ 90 - 95%
โรคมะเร็งระยะที่ 1 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 - 90%
โรคมะเร็งระยะที่ 2 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 - 80%
โรคมะเร็งระยะที่ 3 โอกาสหายจะอยู่ที่ 20 - 60%
โรคมะเร็งระยะที่ 4 โอกาสหายจะอยู่ที่ 0 - 15%
เห็นไหมคะว่าอาหารแต่ละอย่างอยู่รอบตัวเราทั้งนั้น แค่ปลานึ่ง ผักต้ม น้ำพริก แกงจืด ยำเห็ด ตบด้วยน้ำผลไม้ปั่น ทุกอย่างรสชาติดี และมีประโยชน์ในราคาสบายกระเป๋า เพราะฉะนั้นเรามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยกันดีกว่าค่ะ

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ http://health.sanook.com/2601/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน

วันสุนทรภู่

วันสุนทรภู่

 

วันสุนทรภู่ หมายถึง วันคล้ายวันเกิดของพระสุนทรโวหาร(สุนทรภู่) เจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวัง ซึ่งมีผลงานด้านบทกลอนที่มีคุณค่าแก่แผ่นดินเป็นจำนวนมาก

ความเป็นมา องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ผลงาน ด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการประกาศ ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีขึ้นไป ประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ โดยสรุป คือ

  1. เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและผลงานของผู้มีผลงานดีเด่นทาง ด้านวัฒนธรรมระดับโลกให้ปรากฎแก่มวลสมาชิกทั่วโลก
  2. เพื่อเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เฉลิมฉลองร่วมกับประเทศที่มีผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ

ในการนี้ รัฐบาลไทย โดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้สืบค้นบรรพบุรุษไทยผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม เพื่อให้ยูเนสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่องสุนทรภู่ให้ เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลกในวาระครบรอบ ๒๐๐ ปีเกิด เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๙ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการจัดตั้งสถาบันสุนทรภู่ขึ้นเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับชีวิตและงานของสุนทรภู่ให้แพร่หลายในหมู่เยาวชนและประชาชนชาวไทยมากยิ่งขึ้น จึงได้กำหนดให้วันที่ ๒๖ มิถุนายน ของทุกปี เป็น วันสุนทรภู่

ชีวประวัติสุนทรภู่

ประวัติสุนทรภู่วัยเด็ก (พ.ศ.๒๓๒๙ - ๒๓๔๙) แรกเกิด - อายุ ๒๐ ปี

พระสุนทรโวหาร (ภู่) มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขุนศรีสังหาญ (พลับ) และแม่ช้อย เกิดในรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือนแปด ขึ้นหนึ่งค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเช้า ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ที่บ้านใกล้กำแพงวังหลัง คลองบางกอกน้อย สุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าจากกัน ฝ่ายบิดากลับไปบวชที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง ส่วนมารดา คงเป็นนางนมพระธิดา ในกรมพระราชวังหลัง (กล่าวกันว่าพระองค์เจ้าจงกล หรือเจ้าครอกทองอยู่) ได้แต่งงานมีสามีใหม่ และมีบุตรกับสามีใหม่ ๒ คน เป็นหญิง ชื่อฉิมและนิ่ม ตัวสุนทรภู่เองได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่ยังเด็ก

สุนทรภู่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน สันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว เมื่อรุ่นหนุ่มเกิดรักใคร่ชอบพอกับนางข้าหลวงในวังหลัง ชื่อแม่จัน ครั้นความทราบถึงกรมพระราชวังหลัง พระองค์ก็กริ้ว รับสั่งให้นำสุนทรภู่และจันไปจองจำทันที แต่ทั้งสองถูกจองจำได้ไม่นาน เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. ๒๓๔๙ ทั้งสองก็พ้นโทษออกมา เพราะเป็นประเพณีแต่โบราณ ที่จะมีการปล่อยนักโทษเพื่ออุทิศส่วนพระราชกุศลแด่ พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์ ชั้นสูงเมื่อเสด็จสวรรคต หรือทิวงคตแล้ว แม้จะพ้นโทษ สุนทรภู่และจันก็ยังมิอาจสมหวังในรัก สุนทรภู่ถูกใช้ไปชลบุรี ดังความตอนหนึ่งในนิราศเมืองแกลงว่า

"จะกรวดน้ำคว่ำขันจนวันตาย แม้เจ้านายท่านไม่ใช้แล้วไม่มา"

แต่เจ้านายท่านใดใช้ไป และไปธุระเรื่องใดไม่ปรากฎ อย่างไรก็ดี สุนทรภู่ได้เดินทางเลยไปถึงบ้านกร่ำ เมืองแกลง จังหวัดระยอง เพื่อไปพบบิดาที่จากกันกว่า ๒๐ ปี สุนทรภู่เกิดล้มเจ็บหนักเกือบถึงชีวิต กว่าจะกลับมากรุงเทพฯ ก็ล่วงถึงเดือน ๙ ปี พ.ศ.๒๓๔๙

ประวัติสุนทรภู่วัยฉกรรจ์ (พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙) อายุ ๒๑ - ๓๐ ปี

หลังจากกลับจากเมืองแกลง สุนทรภู่ได้เป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ พระโอรสองค์เล็ก ของกรมพระราชวังหลัง ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ในช่วงนี้สุนทรภู่ก็สมหวังในรักได้แม่จันเป็นภรรยา

สุนทรภู่คงเป็นคนเจ้าชู้ แต่งงานได้ไม่นานก็เกิดระหองระแหงกับแม่จันยังไม่ทันคืนดี สุนทรภู่ก็ต้องตามเสด็จพระองค์เจ้า ปฐมวงศ์ไปนมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ในวันมาฆบูชา สุนทรภู่ได้แต่งนิราศ เรื่องที่สองขึ้น คือ นิราศพระบาท สุนทรภู่ตามเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ ในเดือน ๓ ปี พ.ศ.๒๓๕๐

สุนทรภู่มีบุตรกับแม่จัน ๑ คน ชื่อหนูพัด แต่ชีวิตครอบครัวก็ยังไม่ราบรื่นนัก ในที่สุดแม่จันก็ร้างลาไป พระองค์เจ้าจงกล (เจ้าครอก ทองอยู่) ได้รับอุปการะหนูพัดไว้ ชีวิตของท่านสุนทรภู่ช่วงนี้คงโศกเศร้ามิใช่น้อย

ประวัติชีวิตของสุนทรภู่ในช่วงปี พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙ ก่อนเข้ารับราชการไม่ชัดแจ้ง แต่เชื่อว่าท่านหนีความเศร้าออกไปเพชรบุรี ทำไร่ทำนาอยู่กับหม่อมบุญนาคในพระราชวังหลัง ดังความตอนหนึ่งในนิราศ เมืองเพชร ที่ท่านย้อนรำลึกความหลัง สมัยหนุ่ม ว่า

"ถึงต้นตาลบ้านคุณหม่อมบุญนาค เมื่อยามยากจนมาได้อาศัย มารดาเจ้าคราวพระวังหลังครรไล มาทำไร่ทำนา ท่านการุญ"

ประวัติสุนทรภู่รับราชการครั้งที่ ๑ (พ.ศ.๒๓๕๙ - ๒๓๖๗) อายุ ๓๐ - ๓๘ ปี

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นมหากวีและทรงสนพระทัยเรื่องการละครเป็นอย่างยิ่ง ในรัชสมัยของ พระองค์ ได้กวดขันการฝึกหัดวิธีรำจนได้ที่ เป็นแบบอย่างของละครรำมาตราบทุกวันนี้ พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์บทละคร ขึ้นใหม่อีกถึง ๗ เรื่อง มีเรื่องอิเหนาและเรื่องรามเกียรติ์ เป็นต้น

มูลเหตุที่สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการ น่าจะเนื่องมาจากเรื่องละครนี้เอง ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีทอดบัตรสนเท่ห์ เพราะจากกรณี บัตรสนเท่ห์นั้น คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกประหารชีวิตถึง ๑๐ คน แม้แต่ นายแหโขลน คนซื้อกระดาษดินสอ ก็ยังถูกประหารชีวิตด้วย มีหรือสุนทรภู่จะรอดชีวิตมาได้ นอกจากนี้ สุนทรภู่เป็นแต่เพียงไพร่ มีชีวิตอยู่นอกวังหลวง ช่วงอายุก่อนหน้านี้ก็วนเวียน และเวียนใจอยู่กับเรื่องความรัก ที่ไหนจะมีเวลามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง

(กรณีวิเคราะห์นี้ มิได้รับรองโดยนักประวัติศาสตร์ เป็นความเห็นของคุณปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ เขียนไว้ในหนังสือ "เที่ยวไปกับสุนทรภู่" ซึ่งเห็นว่ามูลเหตุที่สุนทรภู่ได้เข้า รับราชการ น่าจะมาจากเรื่องละครมากกว่าเรื่องอื่น ซึ่งข้าพเจ้า พิเคราะห์ดูก็เห็นน่าจะจริง ผิดถูกเช่นไรโปรดใช้วิจารณญาณ)

อีกคราวหนึ่งเมื่อทรงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ตอนศึกสิบขุนสิบรถ ทรงพระราชนิพนธ์บทชมรถทศกัณฐ์ว่า

"รถที่นั่ง บุษบกบัลลังก์ตั้งตระหง่าน 
กว้างยาวใหญ่เท่าเขาจักรวาล ยอดเยี่ยมเทียมวิมานเมืองแมน 
ดุมวงกงหันเป็นควันคว้าง เทียมสิงห์วิ่งวางข้างละแสน 
สารถีขี่ขับเข้าดงแดน พื้นแผ่นดินกระเด็นไปเป็นจุณ"

ทรงพระราชนิพนธ์มาได้เพียงนี้ ทรงนึกความที่จะต่อไปอย่างไรให้สมกับที่รถใหญ่โตปานนั้นก็นึกไม่ออก 
จึงมีรับสั่งให้สุนทรภู่แต่งต่อ สุนทรภู่แต่งต่อว่า

"นทีตีฟองนองระลอก กระฉอกกระฉ่อนชลข้นขุ่น 
เขาพระเมรุเอนเอียงอ่อนละมุน อนนต์หนุนดินดานสะท้านสะเทือน
ทวยหาญโห่ร้องก้องกัมปนาท สุธาวาสไหวหวั่นลั่นเลื่อน 
บดบังสุริยันตะวันเดือน คลาดเคลื่อนจัตุรงค์ตรงมา"

กลอนบทนี้เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยิ่งนัก นับแต่นั้นก็นับสุนทรภู่เป็นกวีที่ปรึกษาด้วยอีกคนหนึ่ง ทรงตั้งเป็นที่ขุนสุนทรโวหาร พระราชทานที่ให้ปลูกเรือนที่ท่าช้าง และให้มีตำแหน่งเฝ้าฯ เป็นนิจ 
แม้เวลาเสด็จประพาสก็โปรดฯ ให้สุนทรภู่ลงเรือพระที่นั่งไปด้วย เป็นพนักงานอ่านเขียนในเวลาทรงพระราชนิพนธ์บทกลอน

อ่านต่อ http://guru.sanook.com/4029/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ส.ค.) ที่บริเวณต้นข่อยและต้นตะโกนา อายุกว่า 100 ปี กลางทุ่งนา หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ อำเภอสามโก จังหวัดอ่างทอง ได้มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงและต่างอำเภอจำนวนมาก โดยพากันเข้าไปจุดธูปกราบไหว้

พร้อมได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเพื่อส่องหาตัวเลข อยู่ที่บริเวณโดยรอบโคนต้นข่อยและต้นตะโก คล้ายกับการตามล่าหาโปเกม่อน แต่เป็นการตามล่าหาเลขเด็ดนำไปเสี่ยงดวง หลังได้ทราบข่าวว่ามีประชาชนจำนวนมากได้มาใช้โทรศัพท์ส่องหาตัวเลข แล้วนำไปเสี่ยงดวงถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกันมาหลายงวด

จากการสอบถาม นายหลาด เทวงค์ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ กล่าวว่า ต้นข่อยและต้นตะโกนานี้ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ต้นไม้สองต้นอยู่ติดกัน เป็นต้นไม้คล้ายต้นเดียวกันอยู่ที่บริเวณดังกล่าว

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ต่อ มาทางเจ้าของที่นาได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปที่บริเวณโคนต้นข่อยและต้น ตะโกนา แล้วเห็นเป็นตัวเลขเด็ดชัดเจน นำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วถูกรางวัลติดต่อกันหลายงวด เมื่อชาวบ้านทราบข่าวจึงได้แห่กันมาหาตัวเลขเพื่อเสี่ยงดวง

โดยมีชาวบ้านได้เดินทางมาจุดธูปขอโชคลาภที่บริเวณดังกล่าวต้องมีโทรศัพท์ ที่ใช้ถ่ายรูปได้ แล้วใช้โทรศัพท์เดินถ่ายรูปกันไปโดยรอบๆ ต้นข่อยและต้นตะโกนา หากดูในระยะไกลจะคล้าย กับเกมตามล่าหาโปเกม่อนที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้

แต่มาที่กลางทุ่งนาบริเวณโคนต้นข่อยและต้นตะโกนาจะเป็นการหาตัวเลขเพื่อ นำไปเสี่ยงดวง พร้อมได้นำเครื่องเซ่นสังเวย เช่น น้ำแดง ตุ๊กตา ของเล่นและชุดไทยจำนวนมาก นำมาตั้งถวายหลังจากที่เสี่ยงดวงสมหวัง และสร้างความหวังในช่วงวันหวยออกต่อไป

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ข้าราชการเฮ ! กรมบัญชีกลาง เพิ่มค่าทำฟัน 11 รายการ เริ่ม 1 ต.ค.59

ข้าราชการเฮ ! กรมบัญชีกลาง เพิ่มค่าทำฟัน 11 รายการ เริ่ม 1 ต.ค.59

ข้าราชการเฮ ! กรมบัญชีกลาง เพิ่มค่าทำฟัน 11 รายการ เริ่ม 1 ต.ค.59

S! Money

สนับสนุนเนื้อหา

บัญชีกลางยกระดับการรักษาทางทันตกรรม ปรับอัตราค่าบริการให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน หวังช่วยให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวเข้าถึงการรับบริการมากขึ้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป


นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้ปรับอัตราค่าบริการสาธารณสุข ในส่วนค่าบริการทางทันตกรรม ฟันเทียมถอดได้และอุปกรณ์ เพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากการพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีสิทธิและบุคคล ในครอบครัว รวมถึงจะช่วยให้เข้าถึงการรับบริการทางทันตกรรมได้มากขึ้น โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป


ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้ประกาศกำหนด รายการ อัตรา และเงื่อนไขการเบิกจ่ายอัตราค่าบริการทางทันตกรรม ฟันเทียมถอดได้และอุปกรณ์ สำหรับสถานพยาบาลของทางราชการ ประกอบด้วย

1.เพิ่มรายการค่าบริการ 11 รายการ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อการรักษา และ

2.ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการ จำนวน 46 รายการ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างต้นทุนของสถานพยาบาล และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว

อ่านเพิ่มเติม http://money.sanook.com/392661/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

10 ของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ที่สุด (หนุ่มๆ รู้ไว้ แล้วรีบจัดให้ซะ!)

10 ของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ที่สุด (หนุ่มๆ รู้ไว้ แล้วรีบจัดให้ซะ!)

10 ของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ที่สุด (หนุ่มๆ รู้ไว้ แล้วรีบจัดให้ซะ!)

ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความสุข วันปีใหม่แล้ว หลายๆ คนคงกำลังเตรียมแสวงซื้อของขวัญเพื่อมอบให้คนสำคัญ มิว่าจะเป็นครอบครัว หรือคนรัก เพื่อให้มนุษย์รับประทับใจอยู่กันใช่ไหมคะ

ฟังเลยว่าหลายคนยังนึกมิออกว่าจะซื้ออะไรให้ถูกใจคนรับดี วันนี้ Sanook! Women มีไอเดียการเลือกของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ มากระซิบบอกหนุ่มๆ ค่ะ ผู้หญิงอยากได้อะไรกีดกันบ้างมาซูมเลย

1 "เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือ แอคเซสเซอรี่ต่างๆ" ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา แหวน สร้อยคอ จัดมาเถอะค่ะ พวกนางชอบหมดแน่นอน ด้วยความที่ผู้หญิงชอบแต่งตัวเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่นไปเรื่อย สิ่งเหล่านี้คือ ของขวัญที่ดีงามค่ะ แต่ก่อนซื้อหนุ่มๆ ควรดูสไตล์ของสาวๆ ก่อนนะ ไม่ใช่นางชอบแนวหวาน ไปซื้อแนวร็อคให้ ไอ้ที่จะถูกใจ กลับจะกลายเป็นไม่ปลื้มแทนได้นร๊า

 

2 "เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม" นอกจากการแต่งตัวที่ผู้หญิงชอบแล้ว เรื่องความสวยความงามของร่างกายก็ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ ค่ะ ข้อนี้จัดไป รับรองสาวๆ ชอบไม่แพ้กันเลย

3 "Smartphone" ข้อนี้จัดไปสำหรับพ่อบุญทุ่ม ขึ้นปีใหม่แล้ว หากได้โทรศัพท์เครื่องใหม่ รุ่นใหม่กิ๊กๆ นอกจากจะเอาไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ รับรองเธอจะหยิบมาแชท มาคุยกับคุณตลอดทั้งวันเลยจ้า

4 "ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ออกกำลังกาย" เทรนด์สุขภาพมาแรง หากซื้อสิ่งเหล่านี้ให้ นอกจากผู้หญิงของคุณจะปลื้มปริ่มแล้ว เธอยังจะมีรูปร่างที่เป๊ะเวอร์ ให้คุณมองไม่เบื่อด้วยนะคะ

5 "ของ DIY" เป็นของไม่มีราคา แต่มีคุณค่าทางจิตใจที่สุด อะไรมันจะดีไปกว่า ของที่คุณประดิษฐ์ทำขึ้นมาเองละคะ ตั้งใจทำขนาดนี้ มีชิ้นเดียวในโลกด้วย รับรองสาวๆ ยิ้มไม่หุบแน่นอน

6 "กล้องถ่ายภาพ" คือสิ่งที่ถูกใจผู้หญิงแน่ๆ เพราะเวลานี้ ไม่ว่าจะกิน นอน เที่ยว ขอให้ได้ถ่ายภาพลงโซเชียล อวดเพื่อนๆ ก็ฟินแล้วล่ะ ยิ่งกล้องสมัยนี้ถ่ายสวยเกินจริง ถ่ายปุ๊บลงโซเชียลได้ปั๊บด้วย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงยุคนี้แน่ค่ะ

7 "งานไอเดียแปลกๆ" บางทีการให้ของขวัญที่ซ้ำซากจำเจ คุณผู้หญิงก็อาจจะเบื่อได้ ลองหาของขวัญที่เป็นงานไอเดียแปลกๆ ให้เธอสิคะ นอกจากจะถูกใจแล้ว ยังได้รอยยิ้มกลับมาด้วยนะ

8 "เงิน" หากคิดไม่ออกว่าจะให้ของขวัญอะไร หยิบเงินใส่ซอง(สวยๆ )ให้ไปเลยจ้า ให้เธอไปเลือกซื้อเอง ไม่ถูกใจให้มันรู้ไปสิ

9 "ขอให้แฟนรักสม่ำเสมอ หรือขอให้ใครมารักสักคน" ไม่มีสิ่งของใดจะมีค่าเท่ากับ "ความรัก" แล้วค่ะ เพียงคุณให้ความรักกับคุณผู้หญิงมากๆ แสดงความรักไม่เปลี่ยนแปลงแค่นี้ก็คือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วค่ะ

10 "ความสุข" เชื่อว่าผู้หญิงทุกคน อยากได้รับความสุข แค่คุณพาไปท่องเที่ยวในที่ๆ เธอชอบ พาไปหาร้านอาหารน่ารักๆ หม่ำกัน หรือ ทำบุญไหว้พระขอพรรับปีใหม่ เพียงเท่านี้ก็สุขใจแล้วค่ะ

หนุ่มๆ รู้แล้ว รีบจัดให้สาวๆ ด่วนๆ เลยค่ะ รับรองแฮปปี้กันทั้งสองฝ่ายเลยแหละ ^^ ปีใหม่นี้ Sanook! Women ขอให้มีแต่ความสุขกันถ้วนหน้าเลยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก http://women.sanook.com/44465/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำภาพร่างนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

การขัดผิวเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก แต่การขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเสมอนั้นที่ทำแล้วหาได้ผล ซึ่งวิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกต้องเหมาะสมจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหลายครั้งสาวๆ ทำแล้วกลับมีผิวหน้าหมองคล้ำกลับมาแทนที่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิถีทางในการขัดผิวอย่างชอบวิธีให้ได้ทราบดังนี้ค่ะ

ตอนยังไม่ตายสิวควรขัดหน้าดีไหม?

ในช่วงแถวเป็นสิว สาวๆ ไม่ควรขัดผิวหน้าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการเสด็จพระราชดำเนินรบกวนสิวให้ยิ่งอักเสบลุกลามหนักขึ้นไปได้ หรือหากต้องงานขัดผิวหน้าจริงๆ แนะนำยกให้พยายามขัดในส่วนผิวทั่วไปปกติ หลีกเลี่ยงงานลูบไล้จุดที่มีสิวขึ้นเด็ดขาด และควรล้างหน้าให้สะอาดปราศจากฟองตกค้าง จะได้ไม่เป็นอาหารสิวต่อไป

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้<b><i>สิว</i></b> ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วางแผนวันขัดผิวไว้บ้างก็ดี

การขัดผิวหน้า โปร่งแสงครั้งสาวๆ ก็แตะต้องรู้จักวางแผนช่วงเวลาในการขัดผิวเหมือนกันนะคะ จริงอยู่ที่เราควรขัดผิวในตอนกลางคืนเท่านั้นจึ่งจะเหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี สำหรับสาวๆ ที่ขัดผิวหน้าเก่านอน แต่หากตอนเช้ามีทริปหรือมีเหตุจำเป็นจะต้องไปทำกิจกรรมกลางแดด หรือไปทะเล เรียกง่ายๆ ว่าหากผิวหน้าจะต้องเผชิญกับแสงแดดมีชีวิตเวลานาน ในช่วงนี้ควรเลื่อนการขัดผิวหน้าไปก่อนเป็นดีที่สุด เพราะช่วงที่เราขัดผิวใหม่ๆ ผิวหน้าจะยิ่งบอบบางและไวต่อแดดอย่างมาก เสี่ยงถิ่นจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำกับมีปัญหาระคายเคืองกลับมาได้มานั่นเอง

ขัดผิวหน้าอย่างเบามือทุกครั้ง

ผิวหน้าของคนเรามีความบอบบางมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ ดังนั้น ขณะขัดผิว สาวๆ จึงควรลูบไล้ผิวโดยขัดแบบเป็นวงกลมอย่างเบามือที่สุด โดยทำเช่นนี้จนทั่วทั้งใบหน้า เน้นหน้าผาก จมูก แก้มสองข้างและคางเป็นพิเศษ และหากส่วนใดที่มีสิวเสี้ยนก็อาจจะพยายามขัดผิวบริเวณนั้นย้ำบ่อยๆ ซึ่งเวลาในการขัดก็ควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

ควรทาครีมกันแดดหลังขัดผิวอยู่เสมอ

แม้จะขัดผิวในตอนกลางคืนก็ตาม แต่ในทุกๆ เช้าหลังจากทาครีมบำรุงผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ก็ต้องทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV อยู่เสมอ โดยควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวหน้าบอบบางและไวต่อแดดกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ไม่เช่นนั้น แสงแดดจะทำลายผิวหน้าให้หมองคล้ำได้ และหากจะให้ดี พยายามเดินหลบเลี่ยงแสงแดดไว้ด้วยจะดีที่สุด หรืออาจจะกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้างกันแดดอีกทีก็ได้

บำรุงผิวทุกครั้งหลังขัด

หลังไปขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ควรทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ประกอบด้วยส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวหน้ายิ่งสุขภาพดี เนียนนุ่มสดใสอุตดมขึ้น

รู้กันแบบนี้แล้ว จากนี้ไปก็หันมาขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำจากเรากันนะคะ เพื่อผิวหน้าจะได้ขาวกระจ่างใสไร้สิว ไม่มีริ้วรอยและความหมองคล้ำมาเยือนง่ายอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/80203

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มีวิธีรักษาสิวอะไรบ้าง

สปส.เตรียม ขยายอายุรับเบี้ยชราฯจาก 55 ปี เป็น 60 ปี

สปส.เตรียม ขยายอายุรับเบี้ยชราฯจาก 55 ปี เป็น 60 ปี

สปส.เตรียม ขยายอายุรับเบี้ยชราฯจาก 55 ปี เป็น 60 ปี

S! Money

สนับสนุนเนื้อหา

เตรียมแก้กฎหมาย ขยายอายุรับเบี้ยชราภาพหลังเกษียณจาก 55 ปี เป็น 60 ปี ศึกษาโมเดล และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่เลือกเกษียณที่อายุหลัง 55 ปี  เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตแรงงาน พร้อมทั้งรองรับสังคมผู้สูงอายุ

รายงานข่าวเปิดเผยว่า  สำนักงานประกันสังคม(สปส.) เตรียมจะแก้กฎหมายประกันสังคม เพื่อขยายอายุรับเงินชราภาพหลังเกษียณจาก 55 ปี เป็น 60 ปี  เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตแรงงาน พร้อมทั้งรองรับสังคมผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นจากแนวคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลเอก ศิริชัย  ดิษฐกุล ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมไปศึกษาแนวทาง เพราะต้องการให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตที่มั่นคง ของแรงงานทั้งในช่วงที่อยู่ในระบบแรงงาน และเมื่อต้องออกจากระบบแรงงานไปแล้ว

ซึ่งจะต้องดำเนินแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  คือพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533   โดยเมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว ในอนาคตผู้ประกันตนจะสามารถอยู่ในระบบได้จนถึงอายุ  60 ปี 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://money.sanook.com/493577/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

แชร์ภาพพระอาทิตย์ทรงกลด วันนี้ 29 มิ.ย. เส้นรอบวงเป็นสีรุ้ง

แชร์ภาพพระอาทิตย์ทรงกลด วันนี้ 29 มิ.ย. เส้นรอบวงเป็นสีรุ้ง

แชร์ภาพพระอาทิตย์ทรงกลด วันนี้ 29 มิ.ย. เส้นรอบวงเป็นสีรุ้ง

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

โลกออนไลน์แห่แชร์ภาพของ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันนี้ (29 มิ.ย.)  ซึ่งมีความสวยงามมากเส้นรอบวงเป็นสีรุ้ง 

(29 มิ.ย.) โลกออนไลน์แห่แชร์ภาพของพระอาทิตย์ทรงกลด ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันนี้ (29 มิ.ย.)  ซึ่งมีความสวยงามมากเส้นรอบวงเป็นสีรุ้ง

ทั้งนี้ใน ทวิตเตอร์ของ @MrVop ได้เขียนข้อมูลของการเกิดพระอาทิตย์ทรงกลดว่าเกิดจากสาเหตุ เกิดจากการหักเหแสง ของผลึกน้ำแข็งใน เมฆเซอโรสเตรตัส ไม่ได้เกิดจากตัวดวงอาทิตย์เอง" 

อ่านต่อที่ http://news.sanook.com/2584310/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

ต้องรู้! อาการปวดท้องข้างขวานั้นสื่อถึงโรคอะไรได้บ้าง?

ต้องรู้! อาการปวดท้องข้างขวานั้นสื่อถึงโรคอะไรได้บ้าง?

ใครๆ ก็รู้ !! ดุอาการปวดท้องตรงนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วมักสร้างความลำบากกำนัลกับร่างกายของดีฉันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปวดท้องข้างซ้าย หรือปวดท้องข้างขวา หากอาการปวดในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นกับเราอยู่บ่อยๆ นั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่กำลังจะมาถึง ขอให้นึกเอาไว้อยู่เสมอว่า แห่งทุกๆ อาการปวดท้องย่อมต้องมีต้นสายปลายเหตุทั้งสิ้น เมื่อตอนที่แล้ว เราคว้าเรียนรู้ถึงโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกปวดท้องข้างซ้ายกันอย่างครบถ้วน ในตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงสัญญาณร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อปวดท้องข้างขวากันบ้าง หากเกิดอาการปวดท้องข้างขวาอยู่เนืองๆ ในลักษณะต่างๆ แปลว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณถึงโรคร้ายอะไรอยู่นะ

อาการปวดท้องข้างขวาบน (บริเวณชายโครงด้านขวา)

เมื่อคุณมีอาการปวดท้องข้างขวาบนเกิดขึ้น อีกทั้งยังมักจะหมายถึงอาการปวดที่เกิดหลังจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง นั่นอาจหมายความได้ว่า คุณกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี รวมถึงโรคตับ จุดสังเกตที่สำคัญที่จะช่วยยืนยันได้ว่าอาจเป็นโรคดังกล่าว คือ เมื่อนำมือไปกดลงบริเวณที่มีอาการปวด ทำได้จะพบกับก้อนเนื้อแข็งๆ ส่วนอาการอื่นๆ ที่ตามมา คือ มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ร่วมด้วย

นอกจากนั้น ในบางรายที่มีอาการปวดท้องข้างขวาแล้วลามไปถึงแผ่นหลัง โดยในบางกรณีก็อาจมีอาการปวดท้องส่วนบน หรือส่วนกลาง นั่นหมายความว่า ร่างกายของคุณกำลังมีความผิดทุกครั้งที่เกิดขึ้นกับตับอ่อน ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคตับอ่อนอักเสบได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากจนเกินไป

 

อาการปวดท้องข้างขวาล่าง

เมื่อมีอาการปวดข้างขวาล่าง เริ่มตั้งแต่บริเวณรอบสะดือไปจนถึงบริเวณท้องน้อยด้านขวา เมื่อนำมือไปคลำบริเวณที่มีอาการปวดแล้วเจอกับก้อนเนื้อ กดแล้วรู้สึกเจ็บ ประกอบกับมีอาการปวดเสียดอยู่ตลอดเวลา ให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ แต่หากมีอาการปวด คล้ายกับมีลมอยู่ในท้อง มีอาการมวนๆ ท้องร่วมด้วย นั่นอาจเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้

 

อาการปวดท้องข้างขวาใต้ซี่โครง

เมื่อมีอาการปวดท้องข้างขวาแบบปวดแสบใต้ซี่โครง ซึ่งในบางรายอาจมีอาการเสียดพร้อมทั้งจุกท้องร่วมด้วย โน่นหมายความว่าอาจเป็นการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้เล็ก มีสาเหตุมาจากการแพ้โปรตีนกลูเตน ส่งผลกระทบให้ลำไส้ไม่สามารถดูซึมอาหารได้ดีเหมือนปกติ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง หากปล่อยไว้ ไม่ทำการรักษาเป็นระยะเวลานาน อาการเหล่านี้ก็จะสะสมจนเกิดเป็นภาวะท้องเสียเรื้อรัง ท้องอืด อีกทั้งยังสามารถพัฒนาไปเป็นโรคลำไส้เล็กอักเสบได้อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/7093/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน

คำชะโนด 2 หรือวัดป่าคลอง 11 ความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต้องไปไกล !!

สำหรับหลาย ๆ คนคงรู้จักวัดป่าคชะโนดเป็นอย่างดี เพราะเป็นสถานที่ชื่อดังที่ขึ้นชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์และเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของพญานาค ที่จังหวัดอุดรธานี

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มีวัดอีกแห่งหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับวัดป่าแต่อยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพนี่เอง นั่นก็คือว่าป่าคลอง 11 จังหวัดปทุมธานี

19141818_148408609037842_2241
19183999_148408642371172_1156
19190933_148408979037805_1466

ที่นี่มีความคล้ายคลึงกับวัดป่าคำชะโนดมาก ทั้งในด้านภูมิศาสตร์ที่ตั้งเป็นเกาะกลางน้ำเหมือนกัน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ที่มีความเชื่อด้านพญานาคเช่นกัน

19198300_148408759037827_5793

นั่นก็คือองค์ จ้าวปู่ศรีสุทโธ ย่านาคี ถนนทุกสายเต็มไปด้วยรถ ทางเดินทุกเส้นทาง เต็มไปด้วยประชาชนที่มาไหว้ และเต็มไปด้วยความศรัทธา ปู่ศรีสุทโธ ย่านาคี ในขณะนี้

19142031_148408695704500_1161
19198441_148408632371173_1100
19206379_148408645704505_1656

 

ต้องบอกเลยว่ากำลังเป็นสถานที่ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือในหมู่ของผู้คนที่ไปสักการะอย่างมาก แถมยังเดินทางไปได้ง่ายไม่ไกลจากกรุงเทพจึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากของผู้ที่ศรัทธา

และนอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีการสร้างรูปปั้นพญานาคไว้อย่างน่าเกรงขาม ดูลึกลับและน่าค้นหา เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่สวยงามน่าไปเก็บภาพอย่างมาก

หากมีโอกาศในวันหยุดลองเดินทางไปสักการะดูสักครั้ง เพื่อเ

นสิริมงคลในชีวิตและการทำงานต่อไป

19184057_148408615704508_8216
19184183_148408485704521_1146
19198315_148408489037854_2144

 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://travel.sanook.com/1404541/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

วันสุนทรภู่

วันสุนทรภู่

 

วันสุนทรภู่ หมายถึง วันคล้ายวันเกิดของพระสุนทรโวหาร(สุนทรภู่) เจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวัง ซึ่งมีผลงานด้านบทกลอนที่มีคุณค่าแก่แผ่นดินเป็นจำนวนมาก

ความเป็นมา องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ผลงาน ด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการประกาศ ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีขึ้นไป ประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ โดยสรุป คือ

  1. เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและผลงานของผู้มีผลงานดีเด่นทาง ด้านวัฒนธรรมระดับโลกให้ปรากฎแก่มวลสมาชิกทั่วโลก
  2. เพื่อเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เฉลิมฉลองร่วมกับประเทศที่มีผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ

ในการนี้ รัฐบาลไทย โดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้สืบค้นบรรพบุรุษไทยผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม เพื่อให้ยูเนสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่องสุนทรภู่ให้ เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลกในวาระครบรอบ ๒๐๐ ปีเกิด เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๙ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการจัดตั้งสถาบันสุนทรภู่ขึ้นเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับชีวิตและงานของสุนทรภู่ให้แพร่หลายในหมู่เยาวชนและประชาชนชาวไทยมากยิ่งขึ้น จึงได้กำหนดให้วันที่ ๒๖ มิถุนายน ของทุกปี เป็น วันสุนทรภู่

ชีวประวัติสุนทรภู่

ประวัติสุนทรภู่วัยเด็ก (พ.ศ.๒๓๒๙ - ๒๓๔๙) แรกเกิด - อายุ ๒๐ ปี

พระสุนทรโวหาร (ภู่) มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขุนศรีสังหาญ (พลับ) และแม่ช้อย เกิดในรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือนแปด ขึ้นหนึ่งค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเช้า ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ที่บ้านใกล้กำแพงวังหลัง คลองบางกอกน้อย สุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าจากกัน ฝ่ายบิดากลับไปบวชที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง ส่วนมารดา คงเป็นนางนมพระธิดา ในกรมพระราชวังหลัง (กล่าวกันว่าพระองค์เจ้าจงกล หรือเจ้าครอกทองอยู่) ได้แต่งงานมีสามีใหม่ และมีบุตรกับสามีใหม่ ๒ คน เป็นหญิง ชื่อฉิมและนิ่ม ตัวสุนทรภู่เองได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่ยังเด็ก

สุนทรภู่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน สันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว เมื่อรุ่นหนุ่มเกิดรักใคร่ชอบพอกับนางข้าหลวงในวังหลัง ชื่อแม่จัน ครั้นความทราบถึงกรมพระราชวังหลัง พระองค์ก็กริ้ว รับสั่งให้นำสุนทรภู่และจันไปจองจำทันที แต่ทั้งสองถูกจองจำได้ไม่นาน เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. ๒๓๔๙ ทั้งสองก็พ้นโทษออกมา เพราะเป็นประเพณีแต่โบราณ ที่จะมีการปล่อยนักโทษเพื่ออุทิศส่วนพระราชกุศลแด่ พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์ ชั้นสูงเมื่อเสด็จสวรรคต หรือทิวงคตแล้ว แม้จะพ้นโทษ สุนทรภู่และจันก็ยังมิอาจสมหวังในรัก สุนทรภู่ถูกใช้ไปชลบุรี ดังความตอนหนึ่งในนิราศเมืองแกลงว่า

"จะกรวดน้ำคว่ำขันจนวันตาย แม้เจ้านายท่านไม่ใช้แล้วไม่มา"

แต่เจ้านายท่านใดใช้ไป และไปธุระเรื่องใดไม่ปรากฎ อย่างไรก็ดี สุนทรภู่ได้เดินทางเลยไปถึงบ้านกร่ำ เมืองแกลง จังหวัดระยอง เพื่อไปพบบิดาที่จากกันกว่า ๒๐ ปี สุนทรภู่เกิดล้มเจ็บหนักเกือบถึงชีวิต กว่าจะกลับมากรุงเทพฯ ก็ล่วงถึงเดือน ๙ ปี พ.ศ.๒๓๔๙

ประวัติสุนทรภู่วัยฉกรรจ์ (พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙) อายุ ๒๑ - ๓๐ ปี

หลังจากกลับจากเมืองแกลง สุนทรภู่ได้เป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ พระโอรสองค์เล็ก ของกรมพระราชวังหลัง ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ในช่วงนี้สุนทรภู่ก็สมหวังในรักได้แม่จันเป็นภรรยา

สุนทรภู่คงเป็นคนเจ้าชู้ แต่งงานได้ไม่นานก็เกิดระหองระแหงกับแม่จันยังไม่ทันคืนดี สุนทรภู่ก็ต้องตามเสด็จพระองค์เจ้า ปฐมวงศ์ไปนมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ในวันมาฆบูชา สุนทรภู่ได้แต่งนิราศ เรื่องที่สองขึ้น คือ นิราศพระบาท สุนทรภู่ตามเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ ในเดือน ๓ ปี พ.ศ.๒๓๕๐

สุนทรภู่มีบุตรกับแม่จัน ๑ คน ชื่อหนูพัด แต่ชีวิตครอบครัวก็ยังไม่ราบรื่นนัก ในที่สุดแม่จันก็ร้างลาไป พระองค์เจ้าจงกล (เจ้าครอก ทองอยู่) ได้รับอุปการะหนูพัดไว้ ชีวิตของท่านสุนทรภู่ช่วงนี้คงโศกเศร้ามิใช่น้อย

ประวัติชีวิตของสุนทรภู่ในช่วงปี พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙ ก่อนเข้ารับราชการไม่ชัดแจ้ง แต่เชื่อว่าท่านหนีความเศร้าออกไปเพชรบุรี ทำไร่ทำนาอยู่กับหม่อมบุญนาคในพระราชวังหลัง ดังความตอนหนึ่งในนิราศ เมืองเพชร ที่ท่านย้อนรำลึกความหลัง สมัยหนุ่ม ว่า

"ถึงต้นตาลบ้านคุณหม่อมบุญนาค เมื่อยามยากจนมาได้อาศัย มารดาเจ้าคราวพระวังหลังครรไล มาทำไร่ทำนา ท่านการุญ"

ประวัติสุนทรภู่รับราชการครั้งที่ ๑ (พ.ศ.๒๓๕๙ - ๒๓๖๗) อายุ ๓๐ - ๓๘ ปี

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นมหากวีและทรงสนพระทัยเรื่องการละครเป็นอย่างยิ่ง ในรัชสมัยของ พระองค์ ได้กวดขันการฝึกหัดวิธีรำจนได้ที่ เป็นแบบอย่างของละครรำมาตราบทุกวันนี้ พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์บทละคร ขึ้นใหม่อีกถึง ๗ เรื่อง มีเรื่องอิเหนาและเรื่องรามเกียรติ์ เป็นต้น

มูลเหตุที่สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการ น่าจะเนื่องมาจากเรื่องละครนี้เอง ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีทอดบัตรสนเท่ห์ เพราะจากกรณี บัตรสนเท่ห์นั้น คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกประหารชีวิตถึง ๑๐ คน แม้แต่ นายแหโขลน คนซื้อกระดาษดินสอ ก็ยังถูกประหารชีวิตด้วย มีหรือสุนทรภู่จะรอดชีวิตมาได้ นอกจากนี้ สุนทรภู่เป็นแต่เพียงไพร่ มีชีวิตอยู่นอกวังหลวง ช่วงอายุก่อนหน้านี้ก็วนเวียน และเวียนใจอยู่กับเรื่องความรัก ที่ไหนจะมีเวลามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง

(กรณีวิเคราะห์นี้ มิได้รับรองโดยนักประวัติศาสตร์ เป็นความเห็นของคุณปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ เขียนไว้ในหนังสือ "เที่ยวไปกับสุนทรภู่" ซึ่งเห็นว่ามูลเหตุที่สุนทรภู่ได้เข้า รับราชการ น่าจะมาจากเรื่องละครมากกว่าเรื่องอื่น ซึ่งข้าพเจ้า พิเคราะห์ดูก็เห็นน่าจะจริง ผิดถูกเช่นไรโปรดใช้วิจารณญาณ)

อีกคราวหนึ่งเมื่อทรงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ตอนศึกสิบขุนสิบรถ ทรงพระราชนิพนธ์บทชมรถทศกัณฐ์ว่า

"รถที่นั่ง บุษบกบัลลังก์ตั้งตระหง่าน 
กว้างยาวใหญ่เท่าเขาจักรวาล ยอดเยี่ยมเทียมวิมานเมืองแมน 
ดุมวงกงหันเป็นควันคว้าง เทียมสิงห์วิ่งวางข้างละแสน 
สารถีขี่ขับเข้าดงแดน พื้นแผ่นดินกระเด็นไปเป็นจุณ"

ทรงพระราชนิพนธ์มาได้เพียงนี้ ทรงนึกความที่จะต่อไปอย่างไรให้สมกับที่รถใหญ่โตปานนั้นก็นึกไม่ออก 
จึงมีรับสั่งให้สุนทรภู่แต่งต่อ สุนทรภู่แต่งต่อว่า

"นทีตีฟองนองระลอก กระฉอกกระฉ่อนชลข้นขุ่น 
เขาพระเมรุเอนเอียงอ่อนละมุน อนนต์หนุนดินดานสะท้านสะเทือน
ทวยหาญโห่ร้องก้องกัมปนาท สุธาวาสไหวหวั่นลั่นเลื่อน 
บดบังสุริยันตะวันเดือน คลาดเคลื่อนจัตุรงค์ตรงมา"

กลอนบทนี้เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยิ่งนัก นับแต่นั้นก็นับสุนทรภู่เป็นกวีที่ปรึกษาด้วยอีกคนหนึ่ง ทรงตั้งเป็นที่ขุนสุนทรโวหาร พระราชทานที่ให้ปลูกเรือนที่ท่าช้าง และให้มีตำแหน่งเฝ้าฯ เป็นนิจ 
แม้เวลาเสด็จประพาสก็โปรดฯ ให้สุนทรภู่ลงเรือพระที่นั่งไปด้วย เป็นพนักงานอ่านเขียนในเวลาทรงพระราชนิพนธ์บทกลอน

อ่านต่อ http://guru.sanook.com/4029/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

คืบหน้า ! สาวตกรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ญาติเตรียมจัดงานศพที่บ้านเกิด

คืบหน้า ! สาวตกรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ญาติเตรียมจัดงานศพที่บ้านเกิด

คืบหน้า ! สาวตกรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ญาติเตรียมจัดงานศพที่บ้านเกิด

Workpoint TV

สนับสนุนเนื้อหา

สาวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ พ่อเเม่เดินทางมารับศพที่กรุงเทพ ส่วนญาติเตรียมจัดงานศพที่บ้านเกิด จ.น่าน เชื่อเป็นอุบัติเหตุ

วันที่ 19 มิ.ย. 60 บรรยากาศที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 บ้านนาสา ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน เป็นไปด้วยความโศกเศร้า บรรดาญาติพี่น้องของ นางสาวรศรินทร์ อายุ 31 ปี หรือ น้องเอ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตกรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง

หลังทราบข่าวได้พากันมารวมตัวกันที่บ้าน เก็บกวาดทำความสะอาดเพื่อรอรับเตรียมจัดงานศพ ขณะที่นายวีระและนางธัญพร พ่อและแม่ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพเป็นการด่วน ตั้งแต่ช่วงสายวันนี้ เพื่อรับศพน้องเอ กลับบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จังหวัดน่าน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2474298/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน