วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ทำความรู้จัก "โรคซึมเศร้า" และวิธีการดูแล ฟื้นฟู จิตใจ

ทำความรู้จัก "โรคซึมเศร้า" และวิธีการดูแล ฟื้นฟู จิตใจ

คุณมีอาการของโรคซึมเศร้าหรือไม่
รู้สึกเศร้าใจ หม่นหมอง หงุดหงิด หรือรู้สึกกังวลใจ ไม่สบายใจ
ขาดความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง หรือสิ่งที่เคยให้ความสนุกสนานในอดีต
น้ำหนักลดลง หรือเพิ่มขึ้น ความต้องประสงค์อาหารเปลี่ยนนฤมิตไป
นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินกระทั่งปกติ
รู้สึกผิด สิ้นหวัง ไม่ก็รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ เรื่องจำแย่ลง
อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง
กระวนกระวาย ไม่หมายมั่นทำกิจกรรมใดๆ
คิดถึงแต่ความตาย และอยากที่จะฆ่าตัวตาย
ถ้าหากคุณมีอาการเช่นนี้หลายข้อ เป็นเวลายิ่งกว่า 2 สัปดาห์ คุณอาจจะกำลังเป็นโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า เป็นโรคหนึ่งซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของคนเรา เหมือนกับโรคทางกายอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นนั้นจะเป็นคนอ่อนแอ ล้มเหลว หรือไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพียงการเจ็บป่วยอย่างหนึ่ง เกิดได้ทั้งมีสาเหตุ เช่น การสูญเสีย การหย่าร้าง ความผิดหวัง และเกิดได้เองโดยไม่มีสาเหตุใดๆ ซึ่งในปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาหายได้ด้วยการใช้ยา การรักษาทางจิตใจ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน
สาเหตุของโรคซึมเศร้า
หากมีประวัติการเจ็บป่วยโรคนี้ในญาติของท่าน ก็เพิ่มการป่วยโรคนี้กับสมาชิกอื่นในบ้าน แต่ก็มิได้หมายความว่า จะเป็นกันทุกคน

ปัจจัยที่กระตุ้นให้คนที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้มีโอกาสอันควรเกิดอาการก็คือ ความเครียด แต่ทั้งนี้คนที่ไม่มีญาติเคยป่วยก็อาจเกิดเป็นโรคนี้ได้ มักพบว่าผู้ป่วยโรคนี้จะมีความผิดปกติของระดับสารเคมี ที่เซลล์สมองสร้างขึ้น เพื่อรักษาสมดุลของอารมณ์

สภาพจิตใจที่เกิดจากการเลี้ยงดูก็เป็นปัจจัยที่เสี่ยงอีกประการหนึ่งต่อการเกิดโรคซึมเศร้าเช่นกัน คนที่ขาดความภูมิใจในตนเองมองตนเองและโลกที่เขาอยู่ในแง่ลบตลอดเวลา หรือเครียดง่ายเมื่อเจอกับมรสุมชีวิต ล้วนทำให้เขาเหล่านั้นมีโอกาสป่วยง่ายขึ้น

นอกจากนี้ หากชีวิตพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดไม่ราบรื่น หรือต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้างในทางที่ไม่ปรารถนา ก็อาจกระตุ้นให้โรคซึมเศร้ากำเริบได้ สาเหตุที่จะกระตุ้นการเกิดโรคซึมเศร้าที่พบบ่อยก็คือ

งานมีทั้งเรื่องเสี่ยงทางพันธุกรรม ทางสภาพจิตใจ ประจวบพร้อมการเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย ร่วมกันทั้ง 3 ปัจจัย
การรักษา

โรคซึมเศร้า สามารถรักษาให้หายได้เพราะวิธีการรักษาทางจิตใจ และการรักษาด้วยยานักชนิด โดยที่แต่ละคนอาจตอบสนอง ต่อการรักษาแต่ละชนิดไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการการรักษาหลายอย่างร่วมกัน การรับประทานยาจะทำให้อาการของโรคดีขึ้นเร็ว ในขณะที่การรักษาทางจิตใจจะช่วยให้คุณเหมือนมี “ภูมิคุ้มกัน” สามารถต่อสู้กับปัญหาที่จะย่างกรายเข้ามาได้ดีกว่าเดิม ส่วนใหญ่แล้วการรักษาโรคซึมเศร้าไม่จำเป็นต้องมานอนรักษาณโรงพยาบาลแต่อย่างไร

เมื่ออาการของโรครุนแรง จนอาจมีอันตรายจากการพยายามฆ่าตัวตาย หรือผู้ป่วยไม่สามารถกินยาแก้โรคได้ หรือไม่ตอบสนองต่องานรักษาด้วยยา อาจให้การรักษาด้วยไฟฟ้า แต่จะใช้ในกรณีที่จำเป็นแท้จริงเท่านั้น
ยารักษาโรคซึมเศร้า

ในปัจจุบันยารักษาโรคซึมเศร้าแบ่งคลอดได้หลายกลุ่ม ตามลักษณะโครงสร้างทางเคมีและวิธีการออกฤทธิ์ คือ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/721/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน

ดวงสมพงศ์ของชาว ราศีกันย์ กับ ราศีกุมภ์ โดยอาจารย์ธนกร

ชาวราศีกันย์ (ระหว่างวันที่ 22 ส.ค. ถึง 21 ก.ย.)

ชาวราศีกันย์เป็นคนที่ช่างสังเกต ทำอะไรก็จำเป็นต้องมีการวางแผนพินิจพิจารณาเป็นพิเศษ เป็นที่ที่ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย ชอบให้เอาใจใส่ดูแลชอบคำชม มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึก บางครั้งก็ระมัดระวังจนมากเกินไปจนทำให้เสียโอกาสดีๆก็เป็นไปได้ เป็นคนมีพรสวรรค์ลู่ด้านงานประดิษฐ์ ชอบช่วยเหลือเพื่อนกับครอบครัวในยามลำบากบางครั้งก็ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นจนตนเองควรลำบากเสียเอง

 

ชาวราศีกุมภ์ (ระหว่างวันที่ 22 ม.ค. ถึง 21 ก.พ.)

ชาวราศีกุมภ์จะประกอบด้วยอุปนิสัยทำอะไรตรงจรตรงมา ตัดสินใจเรื่องใดๆได้มาอย่างรวดเร็วมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นคนฉลาดพูดไม่อ้อมค้อม พูดตรงไปตรงมา มักจะติดเพื่อน ชอบเข้างานสังคม ด้วยลักษณะนิสัยของชาวราศีกุมภ์จะมีน้ำใจแด่เพื่อนเสมอจึงมีเพื่อนรักใคร่เอ็นดูเสมอ และชอบศึกษาหาความรู้ใหม่เพื่อความก้าวหน้ามีความทะเยอทะยานในตนเองสูง มีความสามารถทางด้านศิลปะและจะเป็นคนที่มีจินตนาการที่ดีชอบวางแผนงานต่างๆเบาบางครั้งก็ชอบเปลี่ยนจุดมุ่งหมายเนืองๆชอบพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ชอบพึงพาตนเองชอบของใหม่ทันสมัย

 

ความเข้ากันของทั้งสองราศี 75 % ทั้งนี้เป็นอิทธิพลที่ส่งผลถึงกันระหว่างราศีแบบ ภาพรวมกว้างๆ ยังคงขึ้นกับบุคคลทั้งสองคนด้วย

 

การผูกดวงสมพงศ์ระหว่างชาวราศีกันย์กับชาวราศีกุมภ์

คู่รักชาวราศีกุมภ์และชาวราศีกันย์หากลงมาพบเจอหรือมาเริ่มคบหากันจักสามารถสร้างความสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจกันได้ด้วยดีลักษณะนิสัยชาวราศีกุมภ์เป็นนรชาติมีน้ำใจและรักครอบครัวอยู่แล้วจึงสามารถดูแลคู่ครองที่เป็นชาวราศีกันย์ได้เป็นอย่างดี ชาวราศีกันย์ก็สามารถดูแลเอาใจใส่คู่รักชาวราศีกุมภ์ได้ดีด้วยเช่นกัน ข้อดีของชาวราศีกันย์จะเป็นคนที่สร้างสรรค์ ส่งผลต่อการกระทำในการตกแต่งเรือนหอหรือบ้านที่จะอาศัยอยู่กับคู่รักชาวราศีกุมภ์ เพราะชาวราศีกันย์จะมีสไตล์การแต่งบ้านแบบเรียบหรูแต่ดูดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาด ในเรื่องของการช่วยกันสร้างฐานะทั้งสองราศีต้องช่วยกันเก็บเงินโดยซื้อเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่จะใช้ชื่อรวมกันก็จะดีจะเป็นวิธีการที่จะช่วยคลุกคลีกันสร้างฐานะร่วมกันได้ดี สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรชวนกันเสด็จพระราชดำเนินท่องเที่ยวร่วมกันก็คือ เดินทางกราบไหว้พระธาตุพนม ทะเล ทะเลสาบ ไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ดูหนัง สิ่งมงคลมีค่าที่ควรมอบให้กันคือแหวนทองคำที่ประดับด้วยหยกก็จักส่งผลให้มีความสุขและความผูกพันเข้าใจกีดกันมากขึ้น บ้านหรือเรือนหอที่ควรเลือกซื้อไว้อยู่ร่วมกันควรเป็นแบบบ้านสไตล์โคโลเนียล 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงสมพงษ์

แห่ส่องเลขคึกคัก รอยเลื้อยปริศนากลางถนน เชื่อสุดใจ

ฮือฮา..พญานาคเลื้อย ทิ้งรอยกลางถนนลาดยาง..ยาวกว่า 100 เมตร แสดงปาฏิหาริย์หน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีก คนแห่ขอเลขเด็ดแทงหวยคึกคัก

(14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายทวี บุญเสก กำนันตำบลตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ว่าชาวบ้านต่างแตกตื่น หลังพบว่ามีรอยคล้ายรอยพญานาค เลื้อยขดไปมากลางถนนลาดยาง ที่บริเวณหน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีก ม.5 ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ โดยรอยมีระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และเริ่มซีดจางลงแล้ว แต่มีชาวบ้านสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา

โดยรอยมีรูปร่างสมบูรณ์ คือ มีส่วนหัว ลำตัว และหางอีกด้วย ประกอบกับที่พบรอยพญานาคดังกล่าว ปรากฏอยู่ตรงบริเวณหน้า ศาลปู่ตาบ้านฉลีก ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพญานาคปรากฏให้เห็นซึ่งรอยนั้นมีลักษณะเปียกชื้น เลื้อยขดไปมาบนถนนลาดยาง ชาวบ้านและผู้สื่อข่าว จึงลองขูดรอยพญานาค มาดมพิสูจน์ดูปรากฏว่า มีกลิ่น คาวๆ หอมๆ คล้ายสมุนไพรโบราณ

ห่างจากศาลปู่ตาบ้านฉลีก ออกไปประมาณ 100 เมตร บริเวณสะพานคลองส่งน้ำบ้านฉลีก ที่บริเวณทุ่งนาข้าวของชาวบ้าน พบร่องรอยการแหวกกอข้าว ลักษณะเหมือนงูขนาดใหญ่เลื้อยผ่านเป็นทางยาว และขดเคี้ยว ชาวบ้านต่างพากันยกมือไหว้ และพากันโทรศัพท์มือถ่ายรูปไว้ ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ถึงกับนั่งคุกเข่า กราบขอพร พญานาคช่วยประทานโชค ลาภ หวังให้ช่วยปลดหนี้สิน

หลังทราบข่าว กลุ่มชาวบ้านฉลีก ม.5 ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ และชาวบ้านหมู่บ้านข้างเคียง และนักเสี่ยงโชคจากทั่วสารทิศ ต่างทยอยเดินทาง นำดอกไม้ ธูปเทียน และแป้งมาทาบนพื้นที่ถนนลาดยางที่ปรากฏรอยพญานาค เพื่อขอ บริเวณด้านหน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีกเป็นจำนวนมาก

นางสาวศศิธร อายุ 20 ปี ผู้เห็นรอยพญานาคเป็นคนแรก กล่าวว่า ที่แรกมีน้าคนหนึ่งเป็นคนเห็น โทรตามให้ตนมาดูกับแม่ เวลาประมาณ 20.00 น.ที่เขาโทรตาม พอมาเห็นก็เป็นจริง ก็เลยโทรศัพท์โทรตามพ่อซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านฉลีกมาดู และได้เรียกชาวบ้านมาดู รอยยังเปียกชื้นอยู่ ก็เลยลองดมดูว่ามันเป็นกลิ่นอะไร พอดมดูเป็นกลิ่นคาวๆ คลายๆ โคลน

กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. วันเดียวกันนั้น มีทหารผ่านทางมากว่า 10 นาย และมีทหารยศจ่าคนหนึ่งเดินมาถามตนว่า ปกติท่านขึ้นมาทุกปีไหม ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ขึ้นทุกปีแต่ลักษณะแบบนี้ ไม่เคยมี ปกติจะขึ้นมาบนผิวน้ำ และขึ้นมาตามวัด เป็นครั้งแรกที่ขึ้นมาบนถนน และมีความยาว มีทั้งหัวและหาง หัวจะอยู่ทางทิศตะวันตก

นางจวน อายุ 63 ปี ชาวบ้านฉลีก กล่าวว่า กลิ่นคาว เหมือนเนื้อเยื่อของสัตว์อะไรสักอย่าง เหม็นคาว รอยที่เห็นเหมือนรอยพญานาคเลย ถ้างูจะไม่มีหนวด คางยาวแบบนี้ ตรงบริเวณหัว มีหน่อ เป็นเส้นยาว 2 หน่อ ชาวบ้านที่นี้เชื่อว่าเป็น รอยพญานาค บางคนที่เขาไม่เชื่อก็ว่า รอยอะไรไม่รู้บ้าไปเอง ชาวบ้านเคยเห็นเมื่อปีที่แล้ว รอยเหมือนพญานาคเลย ตนเคยเห็นมาแล้วกับตาที่ฝาย เมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่ นายสมพงษ์ เลื่อมใส ผู้ใหญ่บ้านฉลีก กล่าวว่า เมื่อปีก่อนชาวบ้านเห็นเขาปรากฏกายขึ้น ลักษณะเป็นงูเลื้อยขดเคี้ยวอยู่เหนือน้ำ ความยาว 200 กว่าเมตร ตอนแรกก็ไม่เชื่อก็เลยอยากจะพิสูจน์ว่า มันคืออะไร สุดท้ายเขาก็อยู่นิ่ง สีสะท้อนในน้ำออกสีทอง อยู่ภายในฝายบ้านฉลีก ห่างจากจุดนี้ไปก็ประมาณ 50 เมตร

สิ่งที่เห็นเป็นบางสิ่งที่ขดคี้ยวอยู่กลางลำน้ำที่เขาขุดคลองหน้าฝาย มองเห็นเป็นรูปเลื้อยสีเหลืองอร่าม ไม่เคยเห็นมาก่อน พึ่งมาเห็นช่วง 3-4 ปีมานี้นี่เอง แต่ก่อนจะมีปรากฏการณ์ แสงพุ่งจากน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นประเพณี ชาวบ้านที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่โผล่มาบนถนนลาดยางนับว่าเป็นครั้งแรกมีรูปขดเคี้ยวเหมือนงู

ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า ชาวบ้านบางคนได้นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปบอกต่อ และมีการทำพิธีขอหวยพญานาค ซึ่งตีเป็นเลข เด็ด 25 และ 45 ชาวบ้านต่าง แห่พากันไปซื้อหวยกันจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันใกล้หวยออกพอดี

ผลสลาก http://news.sanook.com/lotto/

สลากกินแบ่งรัฐบาล 16 กันยายน 2559 http://news.sanook.com/lotto/check/16092559/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

เฮ Nokia 8 วางจำหน่ายจริงพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

เฮ Nokia 8 วางจำหน่ายจริงพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

เฮ Nokia 8 วางจำหน่ายจริงพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

แม้ HMD จะประกาศวางขาย Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายรุ่นปัจจุบันด้วยราคาเริ่มที่ 600 ยูโร แม้กระนั้นเมื่อวางจำหน่ายจริงกลับราคาแพงที่ถูกลงกว่าที่ประกาศไว้

ผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปเปิดเผยราคา Nokia 8 อย่างเป็นทางการพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม แม้กระนั้นก็ขึ้นกับแต่ละโครงข่ายด้วย อย่างเช่น O2 ขายในราคา 577 ยูโร ในเวลาที่ Mobilcom Debitel จำหน่ายในราคา 579 ยูโรขอรับ

ยิ่งกว่านั้นยังมีโปรโมชั่นสำหรับพรีออเดอร์ผ่านเครือข่าย O2 จะได้รับสมาร์ทวอชโลหะของ Nokia ซึ่งวางขายในราคา 129.95 ยูโร

ในส่วนของประเทศอื่นๆอย่างรัสเซีย โครงข่าย Megafon เปิดพรีออเดอร์ Nokia 8 ในราคา 575 ยูโรแค่นั้น ก็ต้องรอดูกันว่าตอนวางจำหน่ายในบ้านเราราคาจะน้อยลงจากนี้อีกหรือเปล่า

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432301/

สรุปทุกสิ่งก่อน iPhone X เปิดตัว สเปค ราคา วันจำหน่ายที่น่าจะเป็น

สรุปทุกสิ่งก่อน iPhone X เปิดตัว สเปค ราคา วันจำหน่ายที่น่าจะเป็น

สรุปทุกสิ่งก่อน iPhone X เปิดตัว สเปค ราคา วันจำหน่ายที่น่าจะเป็น

Arip

สนับสนุนเนื้อหา

อีกประมาณ 1 วัน ทั่วโลกจะได้ทราบกันเสียทีว่า iPhone รุ่นใหม่ จะมีหน้าตา สเปค ราคา และวันจำหน่ายเป็นอย่างไร หลังจากข่าวคราวและภาพกระหน่ำหลุดมาแบบไว้เว้นแต่ละวัน แต่ก่อนจะถึงช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 12 กันยายน นี้ aripfan ได้สรุปข้อมูลที่น่าจะเป็นของ iPhone X ที่ว่ากันว่าจะเป็นรุ่น Limited Edition มาให้ทุกท่านได้เชิญชมกันก่อนจะไปร่วมลุ้นการเปิดตัวครับ

untitled-1 ชื่อที่แท้จริง ?

ความสนใจของการเปิดตัว iPhone ในปีนี้พุ่งไปที่ iPhone X มากกว่ารุ่นอัพเกรด iPhone 7 ซึ่งหลายสื่อในต่างประเทศต่างแสดงท่าทีมั่นใจว่า Apple จะแสดงผลิตภัณฑ์สุดพิเศษเพื่อตอบรับกับการก้าวสู่ปีที่ 11 อย่างยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตามชื่อ iPhone X ยังไม่มีสิ่งใดมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Apple จะเลือกใช้ชื่อ iPhone X จริงๆ ขณะเดียวกันสื่อต่างประเทศบางรายกลับมองว่าชื่อ iPhone Pro มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์อย่าง iPad กับ iPad Pro

ดีไซน์จะเป็นอย่างไร

ในยุค Tim Cook ถูกตั้งคำถามมากมายถึงดีไซน์ของ iPhone ที่คงหน้าตาเดิมๆ ปล่อยให้สมาร์ทโฟน Android หลายรายแซงหน้าไปแล้ว ดังนั้นในด้านดีไซน์หรือการออกแบบจะเป็นจุดที่จะถูกพัฒนาใหม่เพื่อแสดงความเปลี่ยนแปลงให้เห็นเด่นชัดที่สุด

1

จอ OLED จะถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกแทนจอ TFT-LCD ที่มีความยืดหยุ่น ทนทานกว่า ให้การแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ มีความคมชัด และประหยัดพลังงานด้วยความละเอียดที่มีการวิเคราะห์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ  2,436 x 1,125 พิกเซล ภายใต้ขนาดที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาที่ขนาด 5.1, 5.2 หรือ 5.8 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ Apple จะใช้ดีไซน์แบบ “edge-to-edge” หรือใช้พื้นที่จอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ด้านหน้า กินพื้นที่มาถึงบริเวณปุ่มโฮม และนั่นหมายปุ่มโฮมที่อาจต้องโยกย้ายหรือถูกเปลี่ยนไปใช้งานในรูปแบบอื่นๆ แทน รวมไปถึงบริเวณกล้องหน้าที่จะถูกลดพื้นที่ลง เพื่อหลีกให้กับพื้นที่จอแสดงผลที่มากขึ้น

ขณะที่ตัวเครื่องด้านหลังจะใช้กระจกเป็นวัสดุหลักแทนอลูมิเนียมที่ใช้อยู่ใน iPhone 6, 6s และ 7 ส่วนบริเวณขอบทั้งสี่ด้านใช้อลูมิเนียมเพียงเล็กน้อย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดีไซน์นอกจากการแสดงจุดยืนเรื่องความทันสมัยแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงการเป็นสมาร์ตโฟนที่เสมือนเครื่องประดับอันหรูหรา

คุณสมบัติใหม่ที่น่าจะมีเพิ่มขึ้น

นอกจากดีไซน์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว การออกแบบภายในยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพัฒนาให้สอดคล้องกันด้วย ซึ่ง iOS 11 เป็นที่แน่นอนว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาใช้ใน iPhone X ทันที หลังจากเปิดตัวในงาน WWDC 2017 เมื่อเดือนมิถุนายน

2

Touch ID แบบใหม่ : สืบเนื่องจากการพัฒนาดีไซน์จอแสดงผลแบบ edge-to-edge หรือการใช้งานพื้นที่จอแสดงผลมากขึ้น ทำให้ปุ่มโฮมแบบเดิมที่อยู่คู่กับ iPhone มาช้านานจำเป็นต้องปรับรูปแบบการใช้งานใหม่ ซึ่งสื่อต่างประเทศเชื่อว่ามีแนวโน้มที่ Apple จะ Virtual button หรือปุ่มโฮมแบบสัมผัส พร้อมพัฒนาให้รองรับการสแกนลายนิ้วมือได้ในตัว อย่างไรก็ตามก็มีสื่อบางรายที่เห็นต่างว่า เทคนิคสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผลยังเร็วเกินไปที่จะนำมาใช้จริง เป็นผลมาจากข้อจำกัดที่ Apple พบในการทดลองใช้ Touch ID ใต้จอแสดงผล OLED อาทิ จอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ไม่รองรับการจดจำลายนิ้วมือแบบที่ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้, ปัญหาทางเทคนิคของแผง OLED ที่ทำให้ประสิทธิภาพของการสแกนลายนิ้วมือลดลง เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่ยังไม่ยืนยันและเสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย น่าคิดไม่น้อยว่าสุดท้ายแล้วจุดที่ลงตัวที่สุดของปุ่มโฮมบน iPhone X จะออกมาในรูปแบบใด

3

Advertisement

3D sensing : เป็นอีกทางเลือกของการใช้เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัย เป็นรูปแบบของระบบที่ใช้ไบโอเมตริกซ์แบบใหม่ ด้วยการจดจำใบหน้าแบบ 3 มิติ หรือหากจะกล่าวเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็หมายถึง ระบบสแกนใบหน้านั่นเอง

Wireless Charging : ต้องบอกว่าเทคโนโลยี Wireless Charging หรือชาร์จไร้สายไม่ใช่ของใหม่ ในวงการโทรคมนาคมมีค่ายสมาร์ตโฟนเริ่มมาหันมาใช้กันเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ Apple กลับยังไม่เลือกที่จะนำมาใช้ร่วมกับ iPhone อย่างไรก็ดีใน iPhone X มีแนวโน้มพอสมควรที่เทคโนโลยีชาร์จไร้สายจะถูกนำมาใช้เสียที ซึ่งก็แน่นอนว่าระดับ Apple ต้องทำอะไรที่เหนือกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว

คิดว่ามาแน่ !

กล้องหลังคู่ แนวตั้ง : ภาพและคลิปวีดีโอที่อ้างว่าเป็น iPhone X ที่แพร่สะพัดอยู่บนโลกออนไลน์เวลานี้ ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่ากล้องหลังคู่ที่เดิมทีใน iPhone 7 Plus เป็นแบบแนวตั้ง แต่ในปีนี้จะปรับมาเป็นแนวตั้งแทน ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่า การพัฒนากล้องหลังคู่ แนวตั้ง จะมีผลหรือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างไรต่อการถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ

4

AR : อย่างที่ Apple ได้สาธิตการใช้งานเทคโนโลยี AR ในงาน WWDC 2017 ด้วยอุปกรณ์ iOS ผ่านระบบปฏิบัติการ iOS 11 ที่มีแพลตฟอร์ม ARKit รวมอยู่ด้วย เป็นการจำลองภาพเสมือนจริงให้ซ้อนทับกับโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อการจำลองที่ตั้งเฟอร์นิเจอร์, การบอกเส้นทาง ไปจนถึงการเล่นเกม ซึ่งเทคโนโลยีนี้คาดว่าจะมีส่วนสอดคล้องกับกล้องหลังคู่ แนวตั้งด้วย แต่จะให้ผลลัพธ์อย่างไร ต้องรอติดตามครับ

กันน้ำ : มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP67 ถูกนำมาใช้ใน  iPhone 7 และ 7 Plus มีคุณสมบัติกันน้ำหรือของเหลวในระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร ในระยะเวลา 30 นาที ไม่สามารถใช้ถ่ายภาพใต้น้ำได้ แต่ใน iPhone 8 มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่นจะถูกยกระดับขึ้นอีกหนึ่งขั้นมาใช้ IP68 ที่มีความทนทนต่อฝุ่น และอยู่ในน้ำในระดับความลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที เทียบเท่า Samsung Galaxy S8

ชิปประมวลผลใหม่ : ชิปประมวลผล A11 คงไม่ใช่เรื่องที่เซอร์ไพรส์นัก เพราะเชื่อว่า Apple คงแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพทั้งด้านความเร็ว การประมวลผล ไปจนถึงการทำงานด้านกราฟิกที่ดีกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา

Siri จะฉลาดขึ้น : แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคตเชื่อกันว่า Artificial Intelligence หรือ AI จะเข้ามามีบทบาททั้งในชีวิตประจำวันและในทุกๆ อุตสาหกรรม โดย Apple เองก็มองเห็นความสำคัญในจุดนี้เช่นกัน และได้พัฒนา Siri มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งในปัจจุบัน Siri มีพัฒนาการในการรับคำสั่งเสียง พร้อมแสดงรายละเอียดของสิ่งที่เราต้องการได้หลากหลายมากขึ้น จนเปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวที่ต้องมีไว้ใช้งาน สำหรับในอนาคตอันใกล้นี้ Siri จะยิ่งมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น เป็นทั้งผู้ให้คำตอบและสามารถแนะนำทางเลือกที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้ได้

สี

สีดำ Jet Black ยังคงถูกวางให้เป็นสีตั้งต้นใน iPhone X เนื่องจากการประเดิมสีนี้ใน iPhone 7 และ 7 Plus ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ส่วนสองสีที่คาดกันว่าจะมาพร้อมกันในคราวเดียว ได้แก่ สีขาว และสีทองแดง หรือ “Blush Gold ” แต่จะมีสีอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาด้วยหรือไม่นั้น ต้องติดตามในวันแถลงเปิดตัวครับ

5

ราคา

iPhone X ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบชุดใหญ่ จัดว่าเป็นรุ่น Limited Edition ซึ่งสื่อในต่างประเทศล้วนวิเคราะห์เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าจะมีราคามากกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 33,000 บาท ซึ่งราคานี้เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้วัสดุที่มีราคาแพงขึ้นและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

วันวางจำหน่าย

หลังจาการเปิดตัวในวันที่ 12 กันยายน นี้ ตามกระแสข่าวในตอนนี้ระบุว่า Apple จะเริ่มเปิดให้จองครั้งแรกในวันที 15 กันยายน พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศกลุ่มแรกในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมา หรือประมาณวันที่ 22 กันยายน ส่วนการเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย คาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนตุลาคม

ปิดท้าย…

ในงานวันที่ 12 กันยายน นี้ นอกจาก iPhone X ยังมีรุ่นอัพเกรดจาก iPhone 7 อีกสองรุ่น นั่นคือ iPhone 7s และ iPhone 7s Plus แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีการค้นพบโค้ดภายใน iOS 11 เวอร์ชั่น GM ล่าสุด ปรากฏว่ามีการระบุชื่อของ “” เข้ามาด้วย ทำให้ในตอนนี้ทิศทางของการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ น่าจะมีทั้ง iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

อ่านลายละเอียดเพิ่มเติม ไอโฟน 8 ทั้งหมด >>> http://hitech.sanook.com/1433941/

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

...เมนูนี้ ชิ้งน้อยภูมิใจเสนอมากค่ะ สมัยก่อนเวลาจะกินไก่ย่างที ต้องรีบเข้าครัวไปหมักเย็นนี้ พรุ่งนี้ค่อยกิน เพราะอยากให้ซอสต่างๆซึ้มซับเข้าไปในเนื้อไก่และได้รสชาติที่เข้มข้น แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องคอยนานแบบนั้นอีกแล้วค่ะ เพียง30นาที กับเครื่องปรุงไม่กี่อย่าง ก็สามารถเนรมิตรไก่ย่างหน้าตาดี ทำง่าย อร่อยเว่อร์แย้วววววว ส่วนเทคนิคนั้นจะเป็นอะไร ตามมาชมกันได้เลยจ้า...

 

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

1 ปีกไก่

2 รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำโขลกละเอียด

3 น้ำมันหอย

4 ซีอิ้วขาว

5 น้ำปลา

6 ซอสปรุงรส

7 น้ำตาลทราย

วิธีทำ

1 ตั้งกระทะเจียวรากผักชี กระเทียม พริกไทยดำโขลกละเอียดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ชิมแล้วปรับจนได้รสชาติที่ชอบ

 

2 ใส่ปีกไก่ตามลงไปณกระทะ คลุกเคล้าซอสต่างๆให้เคลือบไก่โดยทั่ว ผัดเสด็จพระราชดำเนินเรื่อยๆจนไก่สุกระดับหนึ่ง เทคนิคนี้จะช่วยทุ่นเวลาอบหรือย่างไก่ในขั้นตอนถัดไปด้วยค่ะ แถมทำให้ซอสสุดเข้มข้นเคลือบไปบนชิ้นไก่ทุกชิ้น ชนิดไม่ต้องคอยนมนานด้วย

 

3 สุดท้ายนำไปอบด้วยไฟ 180 ประมาณ 15นาที และ 200 อีกซัก 5 นาที รวมหมดนี้คอยดูด้วยนะคะ ระวังจะไหม้ค่ะ หรือถ้าบ้านใครไม่มีเตาอบ สามารถนำไปย่างหรือทอดก็ได้เช้กันค่ะ

 

เป็นไงคะ เห็นมะ บอกแล้วว่าทำง่ายมั่กๆเลย มาชมผลงานอีกครั้งนะคะ

 

"ก่อนจะลาจากกันไปในวันนี้ ชิ้งขอฝากหนังสือ cookbook เล่มแรกในชีวิตข้าวของชิ้งไว้ในอ้อมใจเพื่อนๆด้วยนะคะ ในเล่มมีถึง 50 เมนู ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นเลยจ้า หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านนายอินทร์ Kinokuniya ซีเอ็ด B2S และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หน้าปกเป็นข้าวผัดปลาทู ด้านหลังปกจะมีชิ้งยืนยิ้มให้อยู่จร้า ^ ^"

ข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/blog/23799/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิงอยากรู้

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

3 อาหารลดความดันโลหิตสูง ป้องกันเส้นเลือดสมองแตก

3 อาหารลดความดันโลหิตสูง ป้องกันเส้นเลือดสมองแตก

“ความดันโลหิตสูง” ทั้งเป็นอาการหนึ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายๆ โรค และมักมีสาเหตุสำคัญๆ มาจากพฤติกรรมการทานอาหาร และการใช้ชีวิตของเรา หากใครที่ชอบทานอาหารเค็ม และอาหารที่มีไขมันสูง ก็มีสิทธิ์เป็นโรคความดันโลหิตสูงได้แล้วล่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นหากมีความเครียดสะสม และไม่ปรับพฤติกรรมในการทานอาหาร ก็จะยิ่งมีอาการหนักจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญๆ อย่าง หลอดเลือด หัวใจ และสมองได้

ดังนั้น ก่อนที่จะสายเกินไปจนรักษาได้รับยาก เรามาเริ่มทานอาหารที่ช่วยลดความดันโลหิตสูงกันดีกว่า

โรคความดันโลหิตสูง หรืออาจเพรียกหาอีกชื่อหนึ่งได้ว่า ภาวะความดันโลหิตสูง เป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถพบได้บ่อยในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งอาจพบได้มากถึงประมาณ 25% - 30% ของประชากรโลกที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหมด โดยพบในผู้ชายได้บ่อยกว่าผู้หญิง อีกทั้งในบางประเทศยังสามารถพบโรคความดันโลหิตสูงได้ถึง 50% ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่พบโรคนี้เด็ก เนื่องจากผู้ที่มีอายุน้อยก็ทำได้มีโอกาสเกิดได้เช่นกัน

โรคความดันโลหิตสูง เกิดขึันได้อย่างไร ?

ในทางการตรวจรักษาได้มีการตรวจพบ โรคความดันโลหิตสูง ชนิดที่ไม่เห็นประจักษ์สาเหตุ ซึ่งเชื่อว่าอาจเกิดมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนี้ คือ อิทธิพลของเอ็นไซม์ ที่เป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆ มีชื่อเรียกว่า เรนิน (Renin) และฮอร์โมนแองจิโอเท็นซิน (Angiotensin) จากไต โดยสารทั้งสองตัวนี้จะทำงานร่วมยับยั้งกับต่อมหมวกไตแบะต่อมใต้สมองในการควบคุมน้ำ เกลือแร่โซเดียม และการบีบตัวของหลอดเลือดในร่างกายทั้งหมด นั้นก็เป็นการควบคุมความดันโลหิตที่มีชื่อเรียกว่า กระบวนการ Renin-Angiotensin system

นอกขนมจากความผิดปกติจากกระบวนการทำงานดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีกลไกที่เอื้อให้บังเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้อีก ดังนี้

พันธุกรรม เนื่องมาสู่จากมีการตรวจพบโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้นในประวัติครอบครัวที่เป็นโรคนี้
เชื้อชาติ โดยมีการตรวจพบผู้ที่เป็นโรคนี้ในคนที่มีเชื้อชาติเป็นอเมริกันผิวดำ
การกินอาหารเค็ม ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคความดันสูงได้ เนื่องมาจากว่าเกลือ โซเดียม หรือเกลือทะเลจะเป็นตัวอุ้มน้ำในเลือด โดยจะเข้าไปเพิ่มปริมาตรของเลือดที่ไหลเวียน จึงอาจส่งผลให้เกิดภาวะความดันสูงขึ้นได้
ความผิดปกติของกระบวนการทำงานในร่างกายที่ส่งผลต่อสมดุลและการทำงานของเกลือแร่ ตลอดจนแคลเซียมในร่างกาย
โรคความดันโลหิตสูงมีอาการอย่างไร ?

เท่าที่มีการพบ จะเจอะได้ว่า โรคความดันโลหิตสูง นั้นมักเป็นโรคที่ไม่กอบด้วยอาการใดๆ บ่งบอก เมื่อเกิดโรคนี้แล้วมักเป็นเรื้อรัง รุนแรงหากว่าไม่ทำได้ควบคุมอาการที่เกิดขึ้นได้ แพทย์บางท่านจึงได้ขนาดนามว่า โรคความดันโลหิตสูง นั้นเป็น เพรฆาตเงียบ (Silent Killer) ซึ่งโดยส่วนใหญ่ อาการที่เกิดจากการเป็นโรคความดันโลหิตสูงมักเป็นอาการที่เกิดข้างเคียงพลัดพรากการหมายถึงโรคในกลุ่มต่างๆ ดังนี้ …

โรคร้ายแรง ได้แก่ โรคหัวใจ , โรคหลอดเลือดในสมอง
โรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ โรคเบาหวาน , โรคอ้วน
โรคที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ โรคเนื้องอกต่อมใต้สมอง (มีอาการปวดศีรษะและดวงตามองเห็นภาพได้ไม่ชัด)

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/4609/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรคซึมเศร้า

ทำความรู้จัก iPhone X (Edition) ไอโฟนรุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 10 ปี

iPhone X (Edition) ถือเป็นอีกรุ่นที่หลายคนกำลังเฝ้าจับตามองอยู่ในตอนนี้ นอกจากการมาของ iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในคืนพรุ่งนี้ 

หากมันมีจริงๆ  (Edition) ก็คือรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีของการเกิด iPhone บนโลกใบนี้ครับ และแน่ๆ ว่ามันคงเป็นพี่ใหญ่สุดของงาน เพราะตามกระแสข่าวลือคือ iPhone X จะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ OLED 5.8 นิ้ว แต่จะไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าอีกต่อไป แต่ใช้ระบบสแกนใบหน้าแทน และการแสดงผลจะขึ้นไปบนสุดของหน้าจอด้วยกัน ส่วนการเรียก Siri เขาจะใช้ปุ่ม Power แทน

 untitled-20

นอกจากนี้ในเรื่องของสเปคนั้นคาดว่าจะใช้ CPU Apple A11 คาดว่าอาจจะให้ RAM 3GB เท่านั้น ในเรื่องของกล้องนั้นคาดว่าจะมีความคล้ายกับรุ่นเดิม คาดว่าเพิ่มเรื่องของระบบ 3D เข้ามาอีกด้วย 

 

แต่อย่างไรก็ดียังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการจากฝ่ายไหนชัดว่าในวันที่ 12 กันยายน 2017 นี้เราจะได้เห็น ไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งหมดกี่รุ่นกันแน่ๆ มันจะมาครบทั้ง iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X หรือไม่? ส่วนเรื่องราคาของไอโฟรรุ่นใหม่คาดว่า  (หรือ iPhone X, iPhone Edition) อาจมีราคาสูงถึง 999 เหรียญ หรือประมาณ 33,100 บาท (64 GB), 1,099 เหรียญ หรือประมาณ 36,400 บาท (256 GB) และ 1,199 เหรียญ หรือประมาณ 39,700 บาท (512 GB) อ่านสื่อนอกวิเคราะห์ได้ที่ (สื่อนอกชี้ iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่น จะเริ่มเปิดให้จอง 15 กันยายน 2017 นี้)

เอาเป็นว่าเรามารออัปเดทไปพร้อมๆ กันในค่ำคืนพรุ่งนี้กันดีกว่าครับ 

ดูรูปไอโฟน 8 เพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1433925/

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีเมษ กับ ราศีมิถุน โดยอาจารย์ธนกร

ชาวราศีเมษ (ระหว่างวันที่ 22 มี.ค. ถึง 21 เม.ย.)

เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเป็นคนพูดตรงมาตรงไป กระทำการอะไรมักมีเป้าหมายเป็นคนที่ถูกใจเดินทางท่องเที่ยว เป็นคนขยันชอบการปฏิบัติ เป็นคนที่มีความสร้างสรรค์ขยันอดทน รักความอิสระมั่นใจตนเองชอบความเด่นดัง อาชีพที่เหมาะกับชาวราศีเมษเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยการปฎิบัติเพราะเป็นคนขยันเหมาะในอาชีพที่จะต้องเดินทางบ่อยๆเช่นมัคคุเทศก์ อาชีพเซลล์ นักถ่ายทำสารคดี นักบิน ทางด้านความรักมีความโรแมนติกชอบความเป็นส่วนตัวอยู่บ้างแต่ถ้าหากพบคู่ของเจ้าชะตาหลังจากนั้น ก็อยากได้ให้เพื่อนญาติหรือสังคมได้รับรู้ว่าเจ้าชะตาหาได้พบคู่พบกับคนที่ถูกใจแล้ว

 

ชาวราศีมิถุน (ระหว่างวันที่ 22 พ.ค. ถึง 21 มิ.ย.)

ชาวราศีมิถุนเป็นคนที่มีอยู่ลักษณะนิสัยเรื่องรู้สิ่งต่างๆคว้าอย่างรวดเร็วแก้ปัญหาตรงตัวหน้าได้ดีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์หรือกับผู้อื่นได้ดี ชอบวางแผนการใช้ชีวันได้ดี ชอบสื่อสารสนทนากับเพื่อนหรือชอบเข้าสังคม แต่บางครั้งติดใจเปลี่ยนเป้าหมายโต้คารมเก่งพอสมควรแต่บางครั้งการตัดสินใจไม่เด็ดขาดสองจิตสองใจ เรื่องข้าวของการดูแลคนที่ครอบครัวก็ทำได้ดีพอพอสมควรอาชีพที่เหมาะสมพร้อมกับคนที่เกิดราศีนี้คืออาชีพนายหน้า นักค้นคว้า นักประดิษฐ์ ไม่ค่อยชื่นชอบทำงานซ้ำๆเพราะหมายความว่าคนเบื่อง่าย

 

การผูกดวงสมพงศ์ระหว่างชาวราศีเมษกับชาวราศีมิถุน

การพิจารณาความสมพงศ์ของดวงชะตาระหว่างคู่รักชาวราศีเมษและชาวราศีเมถุนอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติในการคบหาและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกีดกั้นเพราะทั้งสองราศีนี้มีความพิเศษในเรื่องความสามารถในและเรื่องการสร้างความสุขและความมั่นคงทางด้านครอบครัวได้ดี จึงเหมาะที่จะตกลงปลงใจที่จะมายังมีชีวิตอยู่คู่รักกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรพากันเดินทางไปท่องเที่ยวร่วมกันอย่างมีความสุข คือ พระธาตุดอยสุเทพเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ สวนสัตว์ สวนสนุก สวนน้ำ ชมภาพยนตร์ อัญมณีนำโชคที่จะช่วยให้ความรักและความสัมพันธ์ส่งผลให้มีความสุขที่ดีต่อกันคือ กำไลข้อมือทองคำที่ประดับมรกต บ้านหรือเรือนหอที่ควรเลือกซื้อไว้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันควรเป็นบ้านแบบสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงสมพงษ์

หมวดผึ้ง ตำรวจนางฟ้า อาการโคม่า ขี่บิ๊กไบค์คู่ใจชนจยย.ดับ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวแจ้งว่า  หรือ หมวดผึ้ง รอง สว.ฝอ.1 บก.อก.สทส. (ช่วยราชการสำนักงาน ผบช.สกพ.) ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์อีกคัน เป็นเหตุให้คู่กรณีเสียชีวิตที่ จ.ชุมพร

โดยรายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.ท.หญิง วันวิสา ได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ยังไม่สามารถพูดสื่อสารได้รู้เรื่อง มีอาการอาเจียนและเวียนศีรษะ กระดูกเบ้าตาหัก และมีอาการเลือดคั่งในสมองความหนาประมาณ 2 ซม.

โดยทีมแพทย์แนะนำให้เฝ้ารอดูอาการ โดยโรงพยาบาลชุมพรมีความพร้อมในการผ่าตัดสมองหากอาการแย่ลง แต่หากจะเคลื่อนย้ายแพทย์อนุญาตให้ใช้เฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินเท่านั้น

ทั้งนี้ ทราบว่าเจ้าตัวเดินทางไปร่วมกิจกรรม Iron Man 2018 All Terrain Rally ที่จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 24 -25 ก.พ. คาดว่าขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับ กทม. โดยเจ้าตัวใช้รถจักรยานยนต์คู่ใจเป็น BMW 1200 GS

สำหรับ ร.ต.ท.หญิง วันวิสา หรือหมวดผึ้ง เป็นตำรวจหญิงที่ชื่นชอบขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เคยเข้าร่วมการแข่งขันกับโครงการ Ironman rally เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยมีผู้เข้าร่วมในการแข่งขัน 80 คน และมีผู้หญิงเข้าร่วมเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น โดยขี่รถจักรยานยนต์ BMW จากภูเก็ต ไปยังเชียงใหม่เป็นการขี่แบบตลอด 24 ชั่วโมง

และเคยได้รับการเรียกตัวจากหน่วยงานสันติบาล เข้าไปรับการฝึกซ้อมการขับขี่ในรูปขบวน รองรับแขกของทางรัฐบาลไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9ที่ผ่านมาด้วย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://news.sanook.com/5487918/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

Nokia บอกใบ้มือถือเรือธงรุ่นปริศนา คาดเป็น Nokia 9 จ่อมาพร้อมสเปกครบเครื่องกว่า

 (โนเกีย 9) อัปเดตสเปก ราคา วันเปิดตัวล่าสุด : Nokia บอกใบ้มือถือเรือธงรุ่นปริศนา คาดเป็น Nokia 9 จ่อมาพร้อมสเปกครบเครื่องกว่า ทั้งหน้าจอใหญ่, RAM 8 GB, รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา และกันน้ำ IP68

หลังจากที่ทาง HMD Global ผู้ผลิตและวางจำหน่าย มือถือโนเกีย ได้เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธงรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน ล่าสุด ก็มีความเคลื่อนไหวของ มือถือเรือธงอีกรุ่น เผยออกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่บอกใบ้ความลับดังกล่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น HMD Global นั่นเอง

โดยในระหว่างงานเปิดตัว Nokia 8 ทาง HMD Global เผยว่า ยังมีสมาร์ทโฟนอีกรุ่น ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่า Nokia 8 อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา ถึงแม้ทาง HMD จะไม่เผยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวคือรุ่นใด แต่คาดกันว่าน่าจะหมายถึง Nokia 9

1

 

ถึงแม้ว่าในตอนนี้ จะยังไม่มีรายละเอียดของ Nokia 9 ออกมามากนัก แต่จากภาพหลุดดีไซน์ Nokia 9 ซึ่งเป็นภาพร่างนั้น เผยให้เห็นว่า ตัวเครื่องน่าจะเป็นแบบจอไร้ขอบ และตัดปุ่ม Home ทิ้งไป ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ย้ายไปอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง โดยรวมแล้วคล้ายกับ Samsung Galaxy S8 และพลิกโฉมไปจากดีไซน์ของ Nokia 8 อย่างสิ้นเชิง

2

ภาพคอนเซปท์ Nokia 9

สำหรับสเปกของ Nokia 9 นั้น เบื้องต้นคาดว่า จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 835, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB หรือ 8 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 128 GB, รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา และกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68

ด้านราคา Nokia 9 จะสูงกว่า Nokia 8 เช่นกัน คาดว่าจะอยู่ที่ 749 ยูโร หรือราว ๆ 29,000 บาท (Nokia 8 ราคา 599 ยูโร หรือราว ๆ 24,500 บาท) ส่วนกำหนดการเปิดตัว ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเผยออกมา แต่คาดว่า น่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ - gsmarena.com

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1432193/

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เช็คด่วน! 4 กลุ่มคนที่ต้องคุมน้ำหนักด้วย “โปรตีน”

เช็คด่วน! 4 กลุ่มคนที่ต้องคุมน้ำหนักด้วย “โปรตีน”

เช็คด่วน! 4 กลุ่มคนที่ต้องคุมน้ำหนักด้วย “โปรตีน” เกี่ยวกับ โปรตีน

S! Health

สนับสนุนเนื้อหา

สาวๆ หนุ่มๆ หลายคนที่อยากผอมลง ใช้วิธีอดอาหาร ลดอาหารทุกประเภท ไล่มาตั้งแต่แป้ง น้ำตาล ยันโปรตีน แล้วทานแต่ผัก และผลไม้ หรือเกลือแร่ และวิตามินเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ยังมีคนบางกลุ่มที่ “โปรตีน” เป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก ห้ามขาดโดยเด็ดขาด จะมีใครบ้างตามไปดูกันเลย!

โปรตีน (Protein) นั้นถือว่าเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย สำหรับใครที่ผอมแห้งแรงน้อย ตัวบาง ไม่มีเนื้อหนัง ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูไม่ดี ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงให้คำแนะนำมาว่าถ้าอยากเพิ่มให้ร่างกายดูเต็ม ดูมีน้ำมีนวลก็ต้องเพิ่มโปรตีนเข้าไปและออกกำลังกายเป็นประจำ หากว่าเป็นในแวดวงของผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายอยู่แล้วย่อมต้องได้ยินสรรพคุณของเจ้าโปรตีนมากันบ่อยๆ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ชอบการออกกำลังกายก็คงจะยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับ โปรตีน ในแบบผิดๆ กันอยู่ไม่น้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โปรตีน นั้นมีอยู่ประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มาก อีกทั้งยังเป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่ ! ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าถึงแม้จะมีประโยชน์ขนาดไหน หากว่ากินมากจนเกินไปก็ทำให้อ้วนได้เช่นกัน เราลองไปดูกันซิว่าเจ้าโปรตีนเนี่ยเหมาะกับคนกลุ่มไหนบ้าง ...

1. กลุ่มนักเพาะกาย

เมื่อต้องสร้างกล้ามเนื้อ โปรตีนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะโปรตีน เป็นแหล่งสำคัญของกรดอะมีโน ที่จะช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ถ้าร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน แต่ไม่มีอิฐเพียงพอนั่นเอง

2. คนที่น้ำหนักขึ้นง่าย

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหารแนะนำว่า การรับประทานโปรตีนมากๆ ช่วยให้อิ่มนาน เพราะโปรตีนย่อยยาก นอกจากนั้นโปรตีน ยังช่วยให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดคงที่ ทำให้ลดความอยากรับประทานของหวานลงได้ ดังนั้น ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักไม่ควรงดโปรตีน ในทางตรงข้าม ควรเพิ่มโปรตีนเพื่อให้ไม่รู้สึกหิวบ่อยๆ ลดความอยากอาหาร และกล้ามเนื้อก็ยังคงอยู่

3. ผู้ที่ต้องควบคุมน้ำหนัก เพราะชอบรับประทานของหวาน และคาร์โบไฮเดรต

ถ้าหากว่า ข้าว ขนมปัง ขนมขบเคี้ยว เป็นอาหารโปรดของคุณ เห็นทีจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคเสียแล้วล่ะ ลองลดอาหารพวกนี้ลง แล้วเปลี่ยนมาเป็นโปรตีนคุณภาพสูงดีกว่า เช่น ไข่ขาว ปลา เนื้อไม่ติดมัน คุณจะได้ปริมาณแคลอรี่เพิ่มมากขึ้นจากโปรตีนพวกนี้ ซึ่งดีกว่าการบริโภคน้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมันจะช่วยลดความดันโลหิต ลดปริมาณไขมัน LDL ที่สะสมในร่างกาย นอกจากน้ำหนักที่ลดลงแล้ว ยังได้สุขภาพที่ดียิ่งขึ้นด้วย

4. ผู้ที่อยู่ในวัยกลางคน การได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ

ในวัย 50 ขึ้นไปควรได้รับปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้น เพราะคนวัยนี้มีความเสี่ยงต่อสภาวะกล้ามเนื้อพร่อง หรือการสูญเสียกล้ามเนื้อนั้นเอง ในปี 2015 โรงเรียนแพทย์ในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา แนะนำว่า คนในวัย 52 -75 ปี ควรรักษากล้ามเนื้อ แต่คนในวัยนี้ ก็มีความเสี่ยงของภาวะไขมันในเลือดสูงและโรคหัวใจ ดังนั้นโปรตีนที่จะบริโภคเข้าไปนั้น อาจจะเป็นโปรตีนจากแหล่งอื่น ที่ไม่ใช่เนื้อแดง ไข่ และนม แต่เป็น โปรตีนจากถั่ว เมล็ดพืช และปลา แทน

กิน ‘โปรตีน’ ให้เพียงพอ สำคัญยังไง ?

เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีสารอาหารจำพวก โปรตีน เข้าสู่ร่างกาย ร่างกายก็จะทำการย่อยโปรตีนเหล่านั้นให้กลายเป็น กรดอะมิโน จากนั้นกรดตัวนี้ก็จะดูดซึมไปยัง plasma pool of amino acids ที่เป็นแหล่งเก็บสำรองโปรตีนซึ่งไหลเวียนอยู่ในเลือดของเรา โดยแหล่งเก็บสำรองนี้มีหน้าที่ในการส่งกรดอะมิโนและโปรตีนไปยังเซลล์ให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำงานดังต่อไปนี้

  • ร่างกายต้องการโปรตีนและกรดอะมิโนเพื่อเข้าไปใช้ในการช่วยสร้างสารชีวเคมีสำคัญ อาทิ เอนเซม์ , ฮอร์โมน , สารสื่อประสาท , สารแอนติบอดี้ หากร่างกายได้รับโปรตีนที่ไม่เพียงพอ การทำงานของระบบที่กล่าวไปนี้ก็จะไม่ดีเท่าที่ควร
  • โปรตีน เป็นตัวช่วยขนส่งสารตั้งต้นในร่างกาย ตลอดจนช่วยซ่อมและสร้างเซลล์ต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย
  • การบริโภคโปรตีนจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน กลูคากอน ที่จะช่วยควบคุมระดับไขมันในร่างกาย โดยฮอร์โมนกลูคากอนจะถูกหลั่งเมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จากนั้นตับก็ถูกกระตุ้นให้ปล่อย ไกลโคเจน ที่ถูกกักเก็บไว้ออกมาเป็น กลูโคส ให้ร่างกายได้ใช้งาน ซึ่งเมื่อกลูคากอนถูกหลั่ง มันก็จะเข้าไปกระตุ้นเนื้อเยื่อไขมันให้ปล่อย Fatty Acid ออกมาให้ร่างกายได้ใช้ด้วยเช่นกัน
 

อย่าคิดว่าการอดอาหาร คือการลดน้ำหนักเป็นอันขาดเลยนะคะ เคล็ดลับง่ายๆ ในการลดน้ำหนัก มีแค่การลดปริมาณอาหารที่ให้พลังงานสูง (แป้ง น้ำตาล ไขมันชนิดไม่ดี) และให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกาย จากนั้นก็เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย ทำไปเรื่อยๆ หลายๆ เดือน รับรองว่าเห็นผลดี และปลอดภัยกว่าการทานยา หรืออาหารเสริมแน่นอนค่ะ

เน้นกินแต่ ‘โปรตีน’ ไม่ทำให้อ้วนจริงหรือ ?

เอาเข้าจริงๆ แล้ว ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่ในแวดวงการออกกำลังกาย หรือดูแลรูปร่างอาจไม่รู้ว่าโปรตีนนั้นบริโภคมากไปก็ไม่ดี ไม่ใช่ว่ากินแต่โปรตีนแล้วจะไม่อ้วน ล้วนเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะถ้ามองในเรื่องสารอาหารที่ให้พลังงาน การบริโภคโปรตีนก็เหมือนกับการบริโภคคาร์โบไฮเดรต หรือแป้งนั่นแหละ จะมีสูตรการให้พลังงานได้ประมาณนี้ …

  • โปรตีน 1 กรีม ให้พลังงานเท่ากับ 4 แคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงานเท่ากับ 4 แคลอรี่
  • ไขมัน 1 กรัม ให้พลังงานเท่ากับ 9 แคลอรี่

ฉะนั้น ก็จะหมายความว่าการที่เราบริโภคอาหารที่เต็มไปด้วยโปรตีนเยอะๆ แต่ไม่รู้จักออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้อ้วนได้เช่นกัน เราจึงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ‘โปรตีน’ กันใหม่ว่า ‘โปรตีน’ เป็นสารอาหารที่เน้นเสริมสร้างร่างกาย ไม่ได้มีผลกับเรื่องของการลดความอ้วนแต่อย่างใด ส่วนเคล็ดไม่ลับสำหรับคนที่อยากสุขภาพดี หรือมีรูปร่างที่ดี คือ ต้องรู้จักควบคุมอาหาร รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ รวมถึงออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

ร่างกายต้องการ ‘โปรตีน’ เท่าไหร่ ? ถึงจะเพียงพอ

โดยปกติแล้ว ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการต่อวันก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่สำคัญที่สุด คือ ระดับความหนักของกิจกรรมที่เราต้องทำในแต่ละวัน (Activity Level) อาจแบ่งได้ประมาณนี้

  • ความต้องการโปรตีนสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกาย คือ 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • ความต้องการโปรตีนสำหรับคนที่ออกกำลังกาย หรือนักกีฬา คือ 1.4 - 2.0 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกัรม ซึ่งคนที่ออกกำลังกายหนักกว่าก็จะมีความต้องการโปรตีนมากกว่า

ปริมาณที่บอกไปข้างต้นนั้นเป็นจำนวนที่เพียงพอสำหรับการสร้างโปรตีนในร่างกาย ซึ่งเมื่อได้รับในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการ ร่างกายจะขับโปรตีนส่วนที่เกินทิ้ง ฉะนั้นก็ไม่ต้องบริโภคตีนมากเกินความจำเป็น

ส่วนใครที่อยากเพิ่ม หรือสร้างกล้ามเนื้อ การรับประทานโปรตีนเข้าไปมากๆ ไม่ได้เป็นการไปเพิ่มให้การสร้างกล้ามเนื้อทำได้เร็วขึ้น แต่จะขึ้นอยู่ที่การฝึก ระยะเวลาการฝึก โภชนาการอาหารระหว่างวัน ไปจนถึงปริมาณสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการเสียมากกว่า ดังนั้น การรับประทานโปรตีนสำหรับคนที่อยากเพิ่ม หรือสร้างกล้ามเนื้อก็ควรทานให้เหมาะสมกับความหนักในการฝึกก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพการคำนวณได้ชัดเจนขึ้น

  • คนทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกายมีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม แนะนำให้ทานโปรตีนวันละ 56 กรัม
  • คนที่ออกกำลังกาย แต่ไม่ได้เล่นเวท ไม่ได้อยากมีหุ่นล่ำ เพียงแต่ต้องการความเฟิร์ม มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม แนะนำให้ทานโปรตีนวัน 98 กรัม
  • คนที่ออกกำลังกายและอยากมีกล้าม มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม แนะนำให้ทานโปรตีนวันละ 140 กรัม

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/3945/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรคซึมเศร้า

HMD เผยเป็นนัย Nokia รุ่นถัดไปจะมีหน้าจอ ใหญ่กว่า Nokia 8

HMD เผยเป็นนัย Nokia รุ่นถัดไปจะมีหน้าจอ ใหญ่กว่า Nokia 8

HMD เผยเป็นนัย Nokia รุ่นถัดไปจะมีหน้าจอ ใหญ่กว่า Nokia 8

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

HMD Global พึ่งเปิดตัว Nokia 8 ไป ปัจจุบันมีรายงานจากเว็บไซต์ 4pda.ru ของรัสเซียระบุว่า สมาร์ทโฟน Nokia รุ่นต่อไปจะมีขนาดจอใหญ่มากยิ่งกว่า Nokia 8 เสียอีก

รายงานจาก 4pda.ru ระบุว่า Neil Broadlev ผู้จัดการฝ่าย Global Marketing กล่าวว่า “ทางบริษัทไม่ต้องการแข่งกับ Samsung หรือ Apple แต่จะเน้นไปที่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้แทน”

 

ที่มาของข่าวได้แถลงการณ์ว่าสมาร์ทโฟน Nokia รุ่นใหม่ (Nokia 9) จะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นที่จะตอบสนองต่อความอยากผู้ใช้ทั้งปวง อาจมีขนาด 5.5 – 5.7 นิ้ว พร้อมกับแรม 6 GB – 8 GB, ความจุ 128 GB, มาตรฐานการกันน้ำ IP68 แล้วก็อาจมีเซ็นเซอร์สแกนม่านตาด้วย

คาดว่า Nokia แบบใหม่ (Nokia 9) จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 นี้

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432261/

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีพฤษภ กับ ราศีธนู โดยอาจารย์ลี่

<img src="http://p1.s1sf.com/ho/0/ud/24/122445/12.jpg"><br>

เมื่อชาวพฤษภกับชาวธนูตกหลุมรักกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะร้อนแรงอย่างมิน่าเชื่อ แต่คุณสองคนจะต้องให้เวลาในการเรียนรู้กันและกัน ชาวพฤษภพอใจกับกิจวัตรและวิถีชีวิตแบบเดิมๆที่ให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ในขณะที่ชาวธนูมีความสุขกับการออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สถานที่ อาหาร และอื่นๆ ในช่วงแรกชาวพฤษภอาจจะเรียกร้องการผูกมัดในระดับที่มากกว่าที่ชาวธนูพร้อมจะให้ แต่ถ้าชาวพฤษภเรียนรู้ที่จะอดทนรออีกคาดคั้นหน่อย สุดท้ายชาวธนูก็จะมอบใจให้คุณ

ระดับความเป็นคู่แท้

 

ชาวพฤษภกับชาวธนูมีวิถีชีวิตแตกต่างกัน ชาวพฤษภนั้นเงียบขรึมด้วยกันเป็นงานเป็นการ ในขณะที่ชาวธนูว้าวุ่นไม่หยุดหย่อน ชาวธนูอาจรู้สึกไม่พอใจพร้อมทั้งความนิ่งของชาวพฤษภและพยายามกระตุ้น ซึ่งก็ได้ผลน้อยนิดพอๆกับการพยายามดันก้นวัวเฒ่าอุดหนุนออกเดิน แต่กลับไม่ว่าอย่างไร ชาวธนูก็สามารถนำความสนุกสนานและการผจญภัยมาสู่ชีวิตของชาวพฤษภได้

ราศีพฤษภได้รับอิทธิพลจากดาวศุกร์ (ความรัก) ส่วนราศีธนูได้รับรับอิทธิพลจากดาวพฤหัส (โชคลาภ) ดาวศุกร์ส่งผลให้ชาวพฤษภรักความสวยงามหรูหราและปรารถนาที่จะได้รับความรู้สึกดีๆ ในขณะที่ดาวพฤหัสคือปรัชญา การเรียนรู้ การมองโลกในแง่ดี โชคลาภ และการเดินทาง การผสมผสานกันระหว่างพลังหยางด้วยกันพลังหยินทำให้คุณทั้งคู่ต่างยอมรับและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

ราศีพฤษภเป็นธาตุดิน ส่วนราศีธนูเป็นธาตุไฟ ชาวธนูต้องการพื้นที่ในการฉายความเจิดจรัสของตัวเองในขณะที่ชาวพฤษภต้องการความมั่นคง ชาวธนูใช้ความรู้สึกนำทางในขณะที่ชาวพฤษภเอาจริงเอาจังและคำนึงถึงประสิทธิผล ความแตกต่างนี้อาจเป็นได้ทั้งสิ่งเติมเต็มและความตึงเครียดหากทั้งสองฝ่ายไม่เรียนรู้ที่จะเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน ตราบใดแห่งหนทั้งคู่ยังคงทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมั่นใจว่าความสัมพันธ์นี้พิเศษและสำคัญ (โดยเฉพาะชาวพฤษภจะต้องการมาก) ทุกอย่างก็จะไปได้สวย

ชาวพฤษภเป็นคนดื้อรั้น ลงตักเตือนตัดสินใจอะไรจากแล้วจะเปลี่ยนยากมาก ในขณะตำแหน่งชาวธนูชอบความหลากหลาย จะสนใจทุกสิ่งที่เข้ามาให้เรียนรู้ ชาวพฤษภไม่ทนกับการถูกนอกใจ โดยจะเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งหากถูกนอกใจ และก็ไม่อาจสานต่อความสัมพันธ์ได้ แต่ถึงกระนั้นชาวพฤษภก็ให้อิสระกับชาวธนูในการคบหาคนใหม่ๆ ซึ่งก็ต้องอยู่แค่ในระดับที่ชาวพฤษภรับได้เท่านั้น ชาวพฤษภสอนให้ชาวธนูเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ที่มั่นคง ในขณะที่ชาวธนูก็ชี้ให้ชาวพฤษภเห็นว่าบางครั้งความยืดหยุ่นก็ดีกว่าการเดินตรงเผงไปไล่ตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ สิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างชาวพฤษภกับชาวธนูคือมุมมองใหม่ๆที่ต่างคนต่างมอบให้กัน ความสัมพันธ์ระวางมั่นคงและมีความสุขจะเกิดขึ้นเมื่อคุณทั้งคู่ยอมรับซึ่งกันและกัน

อ่านเพิ่มเติม http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : sanookhoro ดูดวงสมพงษ์

เฮ Nokia 8 วางจำหน่ายจริงพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

เฮ Nokia 8 วางจำหน่ายจริงพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

เฮ Nokia 8 วางจำหน่ายจริงพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

ถึงแม้ว่า HMD จะประกาศวางขาย Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายรุ่นล่าสุดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 600 ยูโร แต่เมื่อวางขายจริงกลับแพงที่ถูกลงกว่าที่ประกาศไว้

ผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปเผยราคา Nokia 8 อย่างเป็นทางการพร้อมราคาที่ถูกลงกว่าเดิม แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเครือข่ายด้วย ดังเช่นว่า O2 จัดจำหน่ายในราคา 577 ยูโร ขณะที่ Mobilcom Debitel จำหน่ายในราคา 579 ยูโรขอรับ

นอกนั้นยังมีโปรโมชั่นสำหรับคนที่พรีออเดอร์ผ่านเครือข่าย O2 จะได้รับสมาร์ทวอชโลหะของ Nokia ซึ่งวางขายในราคา 129.95 ยูโร

ในส่วนของประเทศอื่นๆอย่างรัสเซีย เครือข่าย Megafon เปิดพรีออเดอร์ Nokia 8 ในราคา 575 ยูโรเพียงแค่นั้น ก็ต้องรอดูกันว่าตอนวางจำหน่ายในบ้านพวกเราราคาจะลดน้อยลงจากนี้อีกหรือเปล่า

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432301/

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Nokia ภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง  สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในรูปแบบ Pure Android ไร้แอปแปลกปลอม พร้อมนิยามใหม่ของการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านเลนส์แบบเรียลไทม์ด้วยคราวแรกของ 3 ปรากฎการแห่งสิ่งใหม่ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบสร้างคอนเทนต์ (content creator) นอกนั้น ตัวเครื่องเป็นวัสดุอลูมินัม บางยอดเยี่ยม พร้อมการออกแบบอย่างงาม แฝงไปด้วยคงทนถาวร และก็แนวคิดสร้างสรรค์ Nokia 8 ดำเนินการด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รวมทั้งโครงสร้างที่มาพร้อมกับกล้องคู่แบบ Dual-Camera รวมทั้งคุณภาพของ ZEISS เลนส์กล้องถ่ายภาพชั้นเลิศสุดยอดเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการถ่ายรูป

 

คุณสมบัติเด่นของ Nokia 8 คือ กล้องถ่ายวีดีโอแบบคู่หรือ Dual-Sight ที่ฉีกกฎของการ Live Steaming ครั้งแรกของโลก ช่วยเพิ่มมิติของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือทาง YouTube ได้ Nokia 8 ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรังสรรค์เรื่องราวแห่งความประทับใจผ่าน ภาพ แสง สี และเสียง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากโนเกียไปสู่สังคมออนไลน์อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยการกดพียงครั้งเดียว

ยิ่งไปกว่านี้ Nokia 8 ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีเสียงแบบ Nokia OZO Audio ที่ให้มิติเสียงแบบ 360 องศา เพื่อความสมบูรณ์ของประสิทธิภาพเสียงราวกับคนฟังได้อยู่ที่นั่นจริงๆเหมือนเอาเทคโนโลยีในหนังฮอลลีวูด (Hollywood Technology) มาวางไว้บนมือของคุณ ทั้งยังเรื่องของประสิทธิภาพของภาพแล้วก็เสียงขนาด 4K ที่คุณและก็สหายๆบนโลกออนไลน์จะได้รับประสบการณ์ที่สมจริงสมจัง รวมทั้งยังช่วยบันทึกเสียงได้จากทั่วทุกทิศทุกทางอีกด้วย

สำหรับความพิถีพิถันในการผลิต Nokia 8 ที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ ภายใต้แบบพิมพ์อลูมิเนียมเดียวกันกับรุ่น 6000 Series ซึ่งผลิตจากวัสดุที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการผลิต Nokia 8 โดยเฉพาะ มีขอบเครื่องหนาเพียง 4.6 มิลลิเมตร ส่วนตัวเครื่องความหนาเฉลี่ย 7.3 มิลลิเมตร พร้อมดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงจอสัมผัสที่มีคุณสมบัติสูง ผ่านกระบวนการขัดเงา การประกอบตัวเครื่อง และระบบการทำงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตกว่า 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ โทรศัพท์เครื่องนี้มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM 835 Mobile Platform และระบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ที่มีความปลอดภัยและอัพเดทอยู่เสมอ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มีความสมบูรณ์ที่สุด

เพราะความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับโนเกีย สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ของโนเกียจึงมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความทันสมัย โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจจาก Nokia 8 และระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ๆ จากแอนดรอยด์

เหนือกว่าการเซลฟี่ มากกว่าด้วยการถ่ายแบบ “Bothie”

หลายเรื่องราวรอบตัวเรามีสองด้านให้ต้องค้นหาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับนวัตกรรม Dual-Sight ของ Nokia 8 จะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอภาพความประทับใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้ถูกพัฒนาให้มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS สุดคมชัด นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นในแบบของคุณเองผ่านระบบการทำงาน Dual-Sight ซึ่งเหมาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content creator) ที่สามารถนำเสนอเรื่องราว และไลฟ์สไตล์ของคุณผ่านโซเชียลได้อย่างไม่ซ้ำใครในแบบ “Bothie” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของแอพลิเคชั่นกล้องในแบบเฉพาะของ Nokia 8 แฟนๆ ยังสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดไปเก็บไว้ที่ Google Photos ได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย

 

 

การวางจำหน่าย

Nokia 8 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเงา สีน้ำเงินด้าน สีทองแดง(ไม่มีวางจำหน่ายในไทย) และสีเงิน

เปิดราคาวางจำหน่ายในไทยราคาต่ำกว่าทั่วโลกเพียง 19,500 บาทเท่านั้น

เปิดให้ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป!! ความเห็นส่วนตัว

หลังจากที่ได้ทดสอบในงานก็เรียกได้ว่าค่อนข้างประทับใจในความเร็วของระบบมือถือที่มาพร้อม Pure Android และความลื่นไหลของกล้องที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มีระบบ Live Bokeh หรือไลฟ์โบเก้ ที่คล้าย ๆ Galaxy Note 8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ อีกต่างหาก ส่วนด้านภาพที่ออกมาระหว่างถ่ายภาพ 1 กล้องกับ 2 กล้องยังไม่แตกต่างกันมากนัก อาจจะต้องรออัปเดทเฟิร์มแวร์ตัวจริงก่อนถึงจะพอมองเห็นความแตกต่างได้

และที่ชอบมาก ๆ คือการถ่ายวีดิโอ 4K หน้า – หลังพร้อมกันได้ (ที่เขาเรียกว่า Bothie) งานนี้บอกเลยว่าภาพวีดิโอที่เก็บมาชัดแจ๋วแน่นอน แถมสามารถ Facebook, YouTube Live แบบ Bothie ผ่านโหมดกล้องได้เลยอีกด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ายัง Live บน Fanpage ไม่ได้ในปัจจุบัน รวมไปถึงตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมทั้งเครื่อง จับแล้วรู้สึกถึงความคงทนมาก ๆ แต่ป้องกันตกน้ำไม่ได้ (เป็น IP65 กันน้ำสาดได้อย่างเดียว)

สรุปหลังจากที่ได้จับมาเรียกได้ว่า Nokia 8 ตัวนี้มีความเป็นโทรศัพท์ระดับ Premium สมเป็นเจ้าพ่อวงการมือถือของยุคเก่าที่กำลังจะกลับมาผงาดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งด้านราคาที่สมน้ำสมเนื้อ (อย่าเอาไปเทียบกับ Xiaomi MI6 ก็พอ) ประสิทธิภาพเยี่ยมทั้งเครื่องและกล้อง บอกเลยว่าสาวกไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
    • – GSM: 850/900/1800/1900
    • – WCDMA: 1, 2, 5, 8
    • – TDS-CDMA: 34, 39
    • – LTE: 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
    • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL / 50Mbps UL
    • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
    • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (4 * 2.45GHz Qualcmm® Kryo ™ 4 * 1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5.3 “IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
    • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, แฟลชคู่
    • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
    • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
    • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
    • เครื่องวัดความใกล้เคียง, เครื่องวัดความเร็วในการวัด, เข็มทิศ E, เข็มหมุน, Fingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
    • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.0
      (18 วัตต์, 5V / 2.5A, 9V / 2A, 12V / 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
    • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
    • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด
    • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
    • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432857/

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์? ป้องกันอย่างไร?

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์? ป้องกันอย่างไร?

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์? ป้องกันอย่างไร? เกี่ยวกับ ไข้หวัดใหญ่

S! Health

สนับสนุนเนื้อหา

เมื่อไรก็ตามที่สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยน ช่วงนั้นแหละที่จะเริ่มมีโรคระบาดตามมา เพราะนอกจากจะได้เวลาของเชื้อไวรัสที่พร้อมจะเจริญเติบโตอีกครั้งแล้ว ร่างกายของเราก็รีบปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพอากาศใหม่อีกด้วย ใครที่ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ไม่แข็งแรงพอ ก็โดนไวรัสเล่นงานกันไป

แถมไวรัสยังร้ายกาจ ถึงขั้นทำให้เราเป็นไข้หวัดใหญ่กันง่ายขึ้น อาการหนักขึ้น และต้องใช้ยาที่แรงขึ้นไปด้วย แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เรางงกันอีกต่างหาก จะมีสายพันธุ์อะไรบ้าง และมีวิธีรักษา และป้องกันอย่างไร ตาม Sanook! Health มาเลยค่ะ

 

ไข้หวัดใหญ่ คืออะไร?

ไข้หวัดใหญ่เป็นอาการที่ร่างกายติดเชื้อไวรัส influenza ที่ระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยจะมีอาการไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และอ่อนเพลีย

 

อาการของไข้หวัดใหญ่ แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร?

โดยทั่วไปลักษณะอาการค่อนข้างคล้ายไข้หวัดธรรมดา เพียงแต่อาจมีอาการหนักกว่า และยาวนานกว่า เช่น ไข้สูง และนานกว่า ปวดเมื่อยตามตัวมากกว่า อ่อนเพลียมากกว่า และมักเป็นแบบทันทีทันใด ไม่ใช่อาการค่อยเป็นค่อยไปทีละอย่างเหมือนไข้หวัดธรรมดา

ไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการนานถึง 6-10 วัน ในขณะที่ไข้หวัดธรรมดาอาจมีอาการเพียงไม่กี่วันเท่านั้น นอกจากนี้ไข้หวัดใหญ่ยังเสี่ยงจะมีภาวะแทรกซ้อนมากกว่า จึงทำให้บางครั้งผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาจต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อคอยดูอาการ ป้องกันอาการแทรกซ้อน และการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

อะไรเป็นสาเหตุของการเกิด ไข้หวัดใหญ่ ?


สาเหตุของการเกิดไข้หวัดใหญ่ก็เป็นเพราะ เชื้อไข้หวัดใหญ่ ยังไงล่ะ อ่านไม่ผิด ! นั่นเป็นชื่อที่เราเรียกกันอย่างลำลอง โดยเจ้าเชื้อไข้หวัดใหญ่นี้เป็นไวรัสที่มีชื่อว่า อินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ที่มีอยู่ในน้ำลาย น้ำมูก และเสมหะของผู้ป่วย ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มไวรัสที่เรียกว่า Orthomyxovirus 

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์?

เท่าที่เราทราบกันอยู่ คือ ไข้หวัดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ได้แก่

1. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

2. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B

สายพันธุ์ C มีความรุนแรงน้อย และไม่ทำให้เกิดการระบาด จึงไม่นับรวมอยู่ในกลุ่มของไข้หวัดใหญ่

แต่สำหรับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A นั้น สามารถแบ่งแยกออกมาย่อยๆ ได้อีกมากมาย ตามที่เราเห็นกันในข่าว เช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และ A(H9N2) ตามความแตกต่างของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่นั้นๆ นั่นเอง

สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จนเป็นสาเหตุให้มีคนเสียชีวิต คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ชนิด H1N1 และ H5N1 เป็นต้น

‘ไข้หวัดใหญ่’ มีอาการอย่างไร ?

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ เมื่อมีอาการแล้วมักจะเกิดขึ้นโดยทันทีด้วยลักษณะมีไข้สูง 38 - 41 องศาเซลเซียส มีความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณต้นแขน กระเบนเหน็บ ต้นขา จากนั้นก็มีจะอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตาเวลาที่เคลื่อนไหว เมื่อต้องเผชิญกับแสงจะมีน้ำตาไหลออกมา จากนั้นจะรู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ขมในคอ อีกทั้งยังมีอาการเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ จุกแน่นท้อง คลื่นไส้ อยากจะอาเจียน แต่ในบางรายก็อาจไม่มีอาการคัดจมูก หรือเป็นหวัดเลยก็ได้

 

นอกจากนั้นก็ยังมีอาการอื่นๆ แสดงให้เห็นดังนี้

  • ในรายที่เป็นไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรงก็อาจมีอาการของภาวะแทรกซ้อนเข้ามา เช่น มีน้ำมูก หรือเสมหะข้น เหลือง หรือเขียว ปวดหู หูอื้อ หายในเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด ไอรุนแรง รู้สึกหนาวสั่น ซึม มึน งง และ/หรือหัวใจล้มเหลว
  • อาการที่มาจากการเป็นไข้หวัดใหญ่นั้นจะแสดงอาการอยู่ประมาณ 1 - 7 วัน ที่พบได้บ่อยมากที่สุด คือ 3 - 5 วัน ส่วนอาการไอ รู้สึกอ่อนเพลียก็อาจจะเป็นอยู่ประมาณ 1 - 4 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าอาการอื่นๆ จะทุเลาลงแล้วก็ตาม
  • ในผู้ป่วยบางรายเมื่อหายจากไข้หวัดใหญ่แล้วอาจมีอาการบ้านหมุน เนื่องมาจากการอักเสบของอวัยวะการทรงตัวภายในหูชั้นใน

ใครที่มีความเสี่ยงในการเป็นไข้หวัดใหญ่บ้าง?

ไม่ว่าจะเป็นเพศใด อายุเท่าไร ก็สามารถเสี่ยงเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ หากภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ดีพอ แต่คนที่มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น คือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ เบาหวาน และกลุ่มผู้สูงอายุ

ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อกันได้อย่างไร?

ติดต่อกันจากการรับเชื้อไวรัสผ่านอาการไอ จาม พูด ลมหายใจ ของผู้ที่ติดเชื้อ รวมไปถึงน้ำลายจากการใช้ช้อน แก้ว เดียวกัน หรือแม้กระทั่งสัมผัสข้าวของที่ผู้ป่วยสัมผัส หลังจากใช้มือป้องปากเวลาจามหรือไอด้วย

โดยปกติแล้วเชื้อไข้หวัดใหญ่นั้นจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย การติดต่ออาจเกิดจากการสูดหายใจเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอ หรือจามรด หรืออาจติดต่อโดยการสัมผัส ซึ่งเชื้อนั้นก็อาจติดอยู่ที่มือของผู้ป่วย  สิ่งของเครื่องใช้ อาทิ แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หนังสือ หรือโทรศัพท์ นอกจากนั้นการติดต่อก็ขึ้นอยู่ที่สิ่งแวดล้อม โดยคนปกติเมื่อมาสัมผัสถูกมือของผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ หรือสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อก็จะติดมากับมือของคนๆ นั้นได้ง่าย เมื่อใช้มือขยี้ตา หรือแคะจมูก เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายจนทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้

นอกจากนี้ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ก็ยังสามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศได้ด้วย ซึ่งเชื้อนั้นจะติดอยู่ในละอองฝอยๆ เมื่อผู้ป่วยไอ หรือจาม เชื้อก็จะแพร่กระจายออกไปในระยะไกลและแขวนลอยอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานานๆ จากนั้น เมื่อคนปกติมาสูดเอาอากาศที่มีฝอยละอองนี้เข้าไป หรือละอองเหล่านี้ได้ไปสัมผัสเข้ากับเยื่อตา หรือเยื่อเมือในช่องปาก โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไอ หรือจามรดกันโดยตรง ก็สามารถทำให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรคไขหวัดใหญ่จึงสามารถแพร่ระบาดออกไปได้อย่างรวดเร็ว มีระยะที่เชื้อจะแพร่ไปได้มากที่สุดภายใน 1 สัปดาห์แรกของการเจ็บป่วย

การรักษาไข้หวัดใหญ่

หลายคนอาจจะเคยทราบกันมาบ้างว่า ไข้หวัด เป็นโรคที่ไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้แต่เพียงรักษาตามอาการที่มีเท่านั้น เช่น มีไข้ก็ให้ยาลดไข้ เจ็บคอก็ให้ยาแก้เจ็บคอ เป็นต้น

ในกรณีของไข้หวัดใหญ่ก็เช่นกัน แพทย์จะรักษาตามอาการ พร้อมกับติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรง แพทย์จึงค่อยพิจารณาการใช้ยาที่กดการเพิ่มจำนวนของไวรัส คือ Amantadine หรือ Rimantadine

วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

1. สามารถรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลทั่วไป

2. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

3. หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่สักระยะ เพื่อป้องการการระบาด และแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจากคนหนึ่ง ไปยังอีกคนหนึ่ง

4. ล้างมือให้สะอาด ก่อนทานอาหาร หรือหยิบจับอาหารขึ้นมาทาน

5. ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือเมื่อจามหรือไอ ควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก แล้วขยำทิ้งลงถังขยะ และควรหยุดเรียน หยุดงาน เพื่อรักษาตัวให้หายโดยเร็ว และไม่เป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้คนอื่น

เท่านี้ ไข้หวัดใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปนะคะ อย่างไรก็ตามก็อย่านิ่งนอนใจ ใครที่คิดว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่ สามารถขอรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านค่ะ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/3605/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะเร็งปากมดลูก

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ส.ค.) ที่บริเวณต้นข่อยและต้นตะโกนา อายุกว่า 100 ปี กลางทุ่งนา หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ อำเภอสามโก จังหวัดอ่างทอง ได้มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงและต่างอำเภอจำนวนมาก โดยพากันเข้าไปจุดธูปกราบไหว้

พร้อมได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเพื่อส่องหาตัวเลข อยู่ที่บริเวณโดยรอบโคนต้นข่อยและต้นตะโก คล้ายกับการตามล่าหาโปเกม่อน แต่เป็นการตามล่าหาเลขเด็ดนำไปเสี่ยงดวง หลังได้ทราบข่าวว่ามีประชาชนจำนวนมากได้มาใช้โทรศัพท์ส่องหาตัวเลข แล้วนำไปเสี่ยงดวงถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกันมาหลายงวด

จากการสอบถาม นายหลาด เทวงค์ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ กล่าวว่า ต้นข่อยและต้นตะโกนานี้ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ต้นไม้สองต้นอยู่ติดกัน เป็นต้นไม้คล้ายต้นเดียวกันอยู่ที่บริเวณดังกล่าว

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ต่อ มาทางเจ้าของที่นาได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปที่บริเวณโคนต้นข่อยและต้น ตะโกนา แล้วเห็นเป็นตัวเลขเด็ดชัดเจน นำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วถูกรางวัลติดต่อกันหลายงวด เมื่อชาวบ้านทราบข่าวจึงได้แห่กันมาหาตัวเลขเพื่อเสี่ยงดวง

โดยมีชาวบ้านได้เดินทางมาจุดธูปขอโชคลาภที่บริเวณดังกล่าวต้องมีโทรศัพท์ ที่ใช้ถ่ายรูปได้ แล้วใช้โทรศัพท์เดินถ่ายรูปกันไปโดยรอบๆ ต้นข่อยและต้นตะโกนา หากดูในระยะไกลจะคล้าย กับเกมตามล่าหาโปเกม่อนที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้

แต่มาที่กลางทุ่งนาบริเวณโคนต้นข่อยและต้นตะโกนาจะเป็นการหาตัวเลขเพื่อ นำไปเสี่ยงดวง พร้อมได้นำเครื่องเซ่นสังเวย เช่น น้ำแดง ตุ๊กตา ของเล่นและชุดไทยจำนวนมาก นำมาตั้งถวายหลังจากที่เสี่ยงดวงสมหวัง และสร้างความหวังในช่วงวันหวยออกต่อไป

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

หลุด ชื่อทางการของ iPhone รุ่นปี 2017 iPhone X iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

หลุด ชื่อทางการของ iPhone รุ่นปี 2017  iPhone X iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

หลุด ชื่อทางการของ iPhone รุ่นปี 2017 iPhone X iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

นักพัฒนานามว่า Steven Troughton-Smith ได้เจาะเข้าไปดูโค้ดภายในเฟิร์มแวร์ iOS 11 เวอร์ชั่น Gold Master ซึ่งทำให้ทราบชื่ออย่างเป็นทางการของ iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 ดังนี้

iPhone X (รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี) iPhone 8 (รุ่นถัดจาก iPhone 7) iPhone 8 Plus (รุ่นถัดจาก iPhone 7 Plus)

ข้อมูลดังกล่าว เป็นการไขข้อข้องใจที่มีมาอย่างยาวนานว่า iPhone รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีนั้น จะมีชื่อรุ่นว่าอะไรกันแน่ บางแหล่งข่าวอ้างว่าจะเป็น iPhone 8 และบางแหล่งข่าวก็อ้างว่าเป็น iPhone Edition

อย่างไรก็ดี Apple จะเฉลยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ iPhone รุ่นใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายในงานเปิดตัวซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2017 นี้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1433877/

 

 

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ทำความรู้จัก iPhone X (Edition) ไอโฟนรุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 10 ปี

iPhone X (Edition) ถือเป็นอีกรุ่นที่หลายคนกำลังเฝ้าจับตามองอยู่ในตอนนี้ นอกจากการมาของ iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในคืนพรุ่งนี้ 

หากมันมีจริงๆ  (Edition) ก็คือรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีของการเกิด iPhone บนโลกใบนี้ครับ และแน่ๆ ว่ามันคงเป็นพี่ใหญ่สุดของงาน เพราะตามกระแสข่าวลือคือ iPhone X จะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ OLED 5.8 นิ้ว แต่จะไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าอีกต่อไป แต่ใช้ระบบสแกนใบหน้าแทน และการแสดงผลจะขึ้นไปบนสุดของหน้าจอด้วยกัน ส่วนการเรียก Siri เขาจะใช้ปุ่ม Power แทน

 untitled-20

นอกจากนี้ในเรื่องของสเปคนั้นคาดว่าจะใช้ CPU Apple A11 คาดว่าอาจจะให้ RAM 3GB เท่านั้น ในเรื่องของกล้องนั้นคาดว่าจะมีความคล้ายกับรุ่นเดิม คาดว่าเพิ่มเรื่องของระบบ 3D เข้ามาอีกด้วย 

 

แต่อย่างไรก็ดียังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการจากฝ่ายไหนชัดว่าในวันที่ 12 กันยายน 2017 นี้เราจะได้เห็น ไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งหมดกี่รุ่นกันแน่ๆ มันจะมาครบทั้ง iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X หรือไม่? ส่วนเรื่องราคาของไอโฟรรุ่นใหม่คาดว่า  (หรือ iPhone X, iPhone Edition) อาจมีราคาสูงถึง 999 เหรียญ หรือประมาณ 33,100 บาท (64 GB), 1,099 เหรียญ หรือประมาณ 36,400 บาท (256 GB) และ 1,199 เหรียญ หรือประมาณ 39,700 บาท (512 GB) อ่านสื่อนอกวิเคราะห์ได้ที่ (สื่อนอกชี้ iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่น จะเริ่มเปิดให้จอง 15 กันยายน 2017 นี้)

เอาเป็นว่าเรามารออัปเดทไปพร้อมๆ กันในค่ำคืนพรุ่งนี้กันดีกว่าครับ 

ดูรูปไอโฟน 8 เพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1433925/

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์? ป้องกันอย่างไร?

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์? ป้องกันอย่างไร?

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์? ป้องกันอย่างไร? เกี่ยวกับ ไข้หวัดใหญ่

S! Health

สนับสนุนเนื้อหา

เมื่อไรก็ตามที่สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยน ช่วงนั้นแหละที่จะเริ่มมีโรคระบาดตามมา เพราะนอกจากจะได้เวลาของเชื้อไวรัสที่พร้อมจะเจริญเติบโตอีกครั้งแล้ว ร่างกายของเราก็รีบปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพอากาศใหม่อีกด้วย ใครที่ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ไม่แข็งแรงพอ ก็โดนไวรัสเล่นงานกันไป

แถมไวรัสยังร้ายกาจ ถึงขั้นทำให้เราเป็นไข้หวัดใหญ่กันง่ายขึ้น อาการหนักขึ้น และต้องใช้ยาที่แรงขึ้นไปด้วย แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เรางงกันอีกต่างหาก จะมีสายพันธุ์อะไรบ้าง และมีวิธีรักษา และป้องกันอย่างไร ตาม Sanook! Health มาเลยค่ะ

 

ไข้หวัดใหญ่ คืออะไร?

ไข้หวัดใหญ่เป็นอาการที่ร่างกายติดเชื้อไวรัส influenza ที่ระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยจะมีอาการไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และอ่อนเพลีย

 

อาการของไข้หวัดใหญ่ แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร?

โดยทั่วไปลักษณะอาการค่อนข้างคล้ายไข้หวัดธรรมดา เพียงแต่อาจมีอาการหนักกว่า และยาวนานกว่า เช่น ไข้สูง และนานกว่า ปวดเมื่อยตามตัวมากกว่า อ่อนเพลียมากกว่า และมักเป็นแบบทันทีทันใด ไม่ใช่อาการค่อยเป็นค่อยไปทีละอย่างเหมือนไข้หวัดธรรมดา

ไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการนานถึง 6-10 วัน ในขณะที่ไข้หวัดธรรมดาอาจมีอาการเพียงไม่กี่วันเท่านั้น นอกจากนี้ไข้หวัดใหญ่ยังเสี่ยงจะมีภาวะแทรกซ้อนมากกว่า จึงทำให้บางครั้งผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาจต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อคอยดูอาการ ป้องกันอาการแทรกซ้อน และการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

อะไรเป็นสาเหตุของการเกิด ไข้หวัดใหญ่ ?


สาเหตุของการเกิดไข้หวัดใหญ่ก็เป็นเพราะ เชื้อไข้หวัดใหญ่ ยังไงล่ะ อ่านไม่ผิด ! นั่นเป็นชื่อที่เราเรียกกันอย่างลำลอง โดยเจ้าเชื้อไข้หวัดใหญ่นี้เป็นไวรัสที่มีชื่อว่า อินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ที่มีอยู่ในน้ำลาย น้ำมูก และเสมหะของผู้ป่วย ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มไวรัสที่เรียกว่า Orthomyxovirus 

ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์?

เท่าที่เราทราบกันอยู่ คือ ไข้หวัดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ได้แก่

1. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

2. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B

สายพันธุ์ C มีความรุนแรงน้อย และไม่ทำให้เกิดการระบาด จึงไม่นับรวมอยู่ในกลุ่มของไข้หวัดใหญ่

แต่สำหรับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A นั้น สามารถแบ่งแยกออกมาย่อยๆ ได้อีกมากมาย ตามที่เราเห็นกันในข่าว เช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และ A(H9N2) ตามความแตกต่างของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่นั้นๆ นั่นเอง

สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จนเป็นสาเหตุให้มีคนเสียชีวิต คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ชนิด H1N1 และ H5N1 เป็นต้น

‘ไข้หวัดใหญ่’ มีอาการอย่างไร ?

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ เมื่อมีอาการแล้วมักจะเกิดขึ้นโดยทันทีด้วยลักษณะมีไข้สูง 38 - 41 องศาเซลเซียส มีความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณต้นแขน กระเบนเหน็บ ต้นขา จากนั้นก็มีจะอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตาเวลาที่เคลื่อนไหว เมื่อต้องเผชิญกับแสงจะมีน้ำตาไหลออกมา จากนั้นจะรู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ขมในคอ อีกทั้งยังมีอาการเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ จุกแน่นท้อง คลื่นไส้ อยากจะอาเจียน แต่ในบางรายก็อาจไม่มีอาการคัดจมูก หรือเป็นหวัดเลยก็ได้

 

นอกจากนั้นก็ยังมีอาการอื่นๆ แสดงให้เห็นดังนี้

  • ในรายที่เป็นไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรงก็อาจมีอาการของภาวะแทรกซ้อนเข้ามา เช่น มีน้ำมูก หรือเสมหะข้น เหลือง หรือเขียว ปวดหู หูอื้อ หายในเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด ไอรุนแรง รู้สึกหนาวสั่น ซึม มึน งง และ/หรือหัวใจล้มเหลว
  • อาการที่มาจากการเป็นไข้หวัดใหญ่นั้นจะแสดงอาการอยู่ประมาณ 1 - 7 วัน ที่พบได้บ่อยมากที่สุด คือ 3 - 5 วัน ส่วนอาการไอ รู้สึกอ่อนเพลียก็อาจจะเป็นอยู่ประมาณ 1 - 4 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าอาการอื่นๆ จะทุเลาลงแล้วก็ตาม
  • ในผู้ป่วยบางรายเมื่อหายจากไข้หวัดใหญ่แล้วอาจมีอาการบ้านหมุน เนื่องมาจากการอักเสบของอวัยวะการทรงตัวภายในหูชั้นใน

ใครที่มีความเสี่ยงในการเป็นไข้หวัดใหญ่บ้าง?

ไม่ว่าจะเป็นเพศใด อายุเท่าไร ก็สามารถเสี่ยงเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ หากภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ดีพอ แต่คนที่มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น คือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ เบาหวาน และกลุ่มผู้สูงอายุ

ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อกันได้อย่างไร?

ติดต่อกันจากการรับเชื้อไวรัสผ่านอาการไอ จาม พูด ลมหายใจ ของผู้ที่ติดเชื้อ รวมไปถึงน้ำลายจากการใช้ช้อน แก้ว เดียวกัน หรือแม้กระทั่งสัมผัสข้าวของที่ผู้ป่วยสัมผัส หลังจากใช้มือป้องปากเวลาจามหรือไอด้วย

โดยปกติแล้วเชื้อไข้หวัดใหญ่นั้นจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย การติดต่ออาจเกิดจากการสูดหายใจเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอ หรือจามรด หรืออาจติดต่อโดยการสัมผัส ซึ่งเชื้อนั้นก็อาจติดอยู่ที่มือของผู้ป่วย  สิ่งของเครื่องใช้ อาทิ แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หนังสือ หรือโทรศัพท์ นอกจากนั้นการติดต่อก็ขึ้นอยู่ที่สิ่งแวดล้อม โดยคนปกติเมื่อมาสัมผัสถูกมือของผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ หรือสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อก็จะติดมากับมือของคนๆ นั้นได้ง่าย เมื่อใช้มือขยี้ตา หรือแคะจมูก เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายจนทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้

นอกจากนี้ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ก็ยังสามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศได้ด้วย ซึ่งเชื้อนั้นจะติดอยู่ในละอองฝอยๆ เมื่อผู้ป่วยไอ หรือจาม เชื้อก็จะแพร่กระจายออกไปในระยะไกลและแขวนลอยอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานานๆ จากนั้น เมื่อคนปกติมาสูดเอาอากาศที่มีฝอยละอองนี้เข้าไป หรือละอองเหล่านี้ได้ไปสัมผัสเข้ากับเยื่อตา หรือเยื่อเมือในช่องปาก โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไอ หรือจามรดกันโดยตรง ก็สามารถทำให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรคไขหวัดใหญ่จึงสามารถแพร่ระบาดออกไปได้อย่างรวดเร็ว มีระยะที่เชื้อจะแพร่ไปได้มากที่สุดภายใน 1 สัปดาห์แรกของการเจ็บป่วย

การรักษาไข้หวัดใหญ่

หลายคนอาจจะเคยทราบกันมาบ้างว่า ไข้หวัด เป็นโรคที่ไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้แต่เพียงรักษาตามอาการที่มีเท่านั้น เช่น มีไข้ก็ให้ยาลดไข้ เจ็บคอก็ให้ยาแก้เจ็บคอ เป็นต้น

ในกรณีของไข้หวัดใหญ่ก็เช่นกัน แพทย์จะรักษาตามอาการ พร้อมกับติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรง แพทย์จึงค่อยพิจารณาการใช้ยาที่กดการเพิ่มจำนวนของไวรัส คือ Amantadine หรือ Rimantadine

วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

1. สามารถรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลทั่วไป

2. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

3. หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่สักระยะ เพื่อป้องการการระบาด และแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจากคนหนึ่ง ไปยังอีกคนหนึ่ง

4. ล้างมือให้สะอาด ก่อนทานอาหาร หรือหยิบจับอาหารขึ้นมาทาน

5. ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือเมื่อจามหรือไอ ควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก แล้วขยำทิ้งลงถังขยะ และควรหยุดเรียน หยุดงาน เพื่อรักษาตัวให้หายโดยเร็ว และไม่เป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้คนอื่น

เท่านี้ ไข้หวัดใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปนะคะ อย่างไรก็ตามก็อย่านิ่งนอนใจ ใครที่คิดว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่ สามารถขอรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านค่ะ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/3605/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรคซึมเศร้า